สุชาติ ย้ำ ปรับโครงสร้างพรรคตามใจ หัวหน้าป้อม พ้อ 6 รมต.เสียงข้างน้อย ตั้งใจทำเพื่อสร้างสมดุลทางการเมือง หวังปั้น พปชร.เป็นสถาบัน ชี้ทำงาน 2 ขาได้

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวจะยกเลิกการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ เพราะพูดคุยกันเรียบร้อยก่อนหน้านี้แล้วว่า ขณะนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะมีการประชุมหรือไม่ และตนก็ยังไม่ได้รับการติดต่อ

ส่วนจะมีการปรับโครงสร้างพรรคหรือไม่ อยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นหลัก ตนคงพูดไม่ได้เพราะเป็นกรรมการบริหารพรรคแค่เสียงเดียว และหากได้รับเชิญเข้าประชุมก็ต้องไปในนามกรรมการบริหารพรรค เพื่อพูดคุยหารือกัน เป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่ามีกรรมการบริหารพรรคที่เป็นรัฐมนตรีบางส่วนยอมรับว่าได้เซ็นใบลาออกแล้ว จะมีผลอย่างไร นายสุชาติกล่าวว่า ครั้งแรกที่คุยกัน หากมีแนวทางที่ทำให้อะไรดีขึ้น เรายอมรับว่าเราเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ยื่น เราคุยกันว่าจะต้องยอมรับ ถ้าบริหารพรรคไปในแนวทางที่ไม่ตรงกัน เราจะไปขวางเขาได้อย่างไร เพราะเราเป็นเสียงข้างน้อย เราต้องพิจารณาตัวเองในตรงนั้น

แต่ถ้าเสียงสะท้อนที่เราให้เหตุผลไปมีประโยชน์ต่อประเทศและพรรคที่จะเป็นสถาบันทางการเมือง ก็ถือว่าเราได้ทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรคอย่างดีที่สุดแล้ว ทั้งนี้ ทุกคนเคารพการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค เพราะคือศูนย์รวมจิตใจพวกเราทุกคนและส.ส. 100 กว่าคน และพลังประชารัฐก็เป็นพรรคเดียวที่ตั้งขึ้นมาใหม่แล้วมีส.ส. 100 กว่าคน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่ยากมาก

เมื่อถามว่าต่อไปจะทำงานในพรรคร่วมกันได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคใหญ่ๆ ก็ปรับเปลี่ยนเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ เป็นการปรับสมดุลทางการเมือง และปรับสมดุลของสถานการณ์บ้านเมือง วันนี้เราอาจเป็นคนที่ดีเหมาะสมกับสถานการณ์ แต่วันหน้าถ้าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอีกอย่างหนึ่ง แล้วไม่ใช่เรา มันก็เป็นเรื่องปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อ 6 รัฐมนตรีขับเคลื่อนให้ปรับโครงสร้างพรรค หากปรับไม่สำเร็จจะอยู่กันอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า แนวคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตนเป็นหนึ่งในเสียงของกรรมการบริหารพรรค แต่ถ้าเราเป็นแล้วไม่สามารถพูดหรือเสนอแนวคิดได้ เราก็ไม่ควรเป็น แต่ถ้าเสนอแนวคิดแล้ว ไม่ถูกหยิบมาปรับสมดุล หรืออาจคิดไม่ตรงกับเสียงข้างมาก หากอยู่แล้วไม่สบายใจ หรือไปขวางความคิดของคนอื่น เราต้องพิจารณาตัวเอง

แต่การเสนอแนวคิดนั้น ไม่ได้เสนอเพื่อตัวเอง แต่เพื่อให้พรรคเติบโตเป็นสถาบันทางการเมืองที่แข็งแรง ทำให้หัวหน้าพรรคมีความสง่างาม ทำเพื่อปรับสมดุลสู้กับพรรคใหญ่ที่มีการปรับสมดุล ซึ่งในทางการเมืองผลลัพธ์คือประชาชน ทำทุกอย่างให้ประชาชนเชื่อมั่น ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ เราก็ต้องทำ

เมื่อถามว่าหากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคยังอยู่ในตำแหน่ง 6 รัฐมนตรีจะทำงานร่วมกับพรรคต่อไปหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แน่นอน เพราะต้องแยกกันคนละประเด็น ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค อีกส่วนหนึ่งทำงานเพื่อรับใช้บ้านเมือง คนละอย่างกัน และสถานการณ์การเลือกตั้งก็เหลือเวลาอีกปีกว่า ยังไม่ใช่วันนี้ แต่ถ้าเราปรับสมดุลให้เกิดความเข้มแข็ง ให้พรรคแข็งแรงมากขึ้น ถ้าทำได้เร็วขึ้นก็คงดี แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องทำงานต่อไป เพราะเราทำงาน 2 ขา

เมื่อถามว่าในอนาคตสถานการณ์เช่นนี้ยังจะเกิดขึ้นอีกภายในพรรคหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า พลังประชารัฐเป็นพรรคตั้งขึ้นมาใหม่ ทุกคนยึดหลักที่หัวหน้าพรรค ไม่เหมือนพรรคอื่นที่มีสาขา มีหัวหน้าภาค ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐต้องค่อยๆ ปรับสมดุลเพื่อให้เกิดความพร้อม เพราะตอนนี้การเมือง 4 ปีเราผ่านมา 2 ปีแล้ว เหมือนอยู่บนยอดดอยแล้วค่อยๆ เดินลงดอย ก็อยู่ที่ความพร้อมที่เราจะต้องเตรียมตัวเท่านั้นเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน