ส.ส.รุมฉะรัฐบาล ใช้กำลังสลายม็อบจะนะ อมรัตน์ ซัดไร้สัจจะ เปรียบเหมือนลูกหมา ปชป.สงขลาจี้หยุดใช้ความรุนแรง หมอเพชรดาวลั่นชุมนุมอย่างสงบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. 2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระ ได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่

พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย หารือถึงการแก้ปัญหากรณีนิคมอุตสาหกรรมจะนะว่า ตนและส.ส.ชายแดนใต้ ได้รับเรื่องจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ตั้งเแต่เดือนส.ค.2563 ในประเด็นเวทีรับฟังความคิดเห็น เมื่อ 11 ก.ค.63 ควรเป็นโมฆะ หลังจากนั้นได้ติดตามการขับเคลื่อนและทราบว่าบันทึกข้อตกลงระหว่างกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น กับผู้แทนรัฐบาลในวันที่ 14 ธ.ค.63 และเมื่อ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรึกษากับนายสมบูรณ์ คำแหง ที่ปรึกษาเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ว่าจะนำเรื่องนี้เสนอต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้รับทราบความคืบหน้า

แต่ปรากฎว่าคืนวันที่ 6 ธ.ค. กลับมีการสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ชุมนุม 37 คนแทนการพูดคุย ทั้งที่ชุมนุมอย่างสันติเพื่อทวงถาม 1 ปีกับข้อตกลงที่ทำไว้กับผู้แทนรัฐบาลที่ไม่คืบหน้า ตนถือว่าเป็นสิทธิของประชาชนทุกคนที่จะรักและหวงแหนดินแดน และปกป้องธรรมชาติในบ้านเกิดของตน จึงขอฝากไปยังผู้มีอำนาจด้วย

ด้านพล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หารือว่า ขอให้รัฐบาลหยุดใช้ความรุนแรงต่อชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่มาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล และขอร้องนักการเมืองที่สร้างภาพเพื่อหวังผลทางการเมืองใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนสับสน เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน ทำให้ประเทศเสียหาย ขอให้หยุดการกระทำนั้น

ส่วนนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น พวกเขาเดินทางเกือบพันกิโลเมตร จากสงขลาเข้ามานั่งรอทวงคืนสัญญาที่ให้ไว้เมื่อเดือนธ.ค.63 จากนายกฯ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง นั่นคือสัญญาว่าจะยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ พวกเขาไม่ทราบว่ามีการขบเหลื่อมกันทางการเมืองระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรฯ กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อย่างไรบ้าง

นางอมรัตน์ กล่าวว่า พวกเขารู้สึกว่า พวกท่านคือรัฐบาล ต้องมีหน้าที่แก้ปัญหาให้พวกเขา และการที่เขาเลือกมาหานายกฯ เพราะนายกฯเป็นประธานของ ศอ.บต. ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ และนายกฯยังเป็นผู้ลงนามในคำสั่งที่ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง เมื่อเดือนม.ค.63 เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของนิคมฯ ฉะนั้น นายกฯ จะปัดความรับผิดชอบให้เป็นของคนอื่นไม่ได้

นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. มีการสลายการชุมนุมอย่างโหดร้ายกับสตรีส่วนใหญ่ที่เป็นชาวมุสลิมสูงวัย มาชุมนุมโดยสงบสันติ แต่การใช้กำลังที่รุนแรงเข้าสลายการชุมนุม ผิดทั้งหลักสากล ผิดทั้งหลักการเป็นมนุษย์ด้วย รวมทั้งมีการปิดกั้นเสรีภาพสื่อมวลชน โดยการใช้โล่ของ คฝ.กั้นไม่ให้กล้องถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอได้ และยังใช้ไฟฉายส่องใส่หน้าสื่อมวลชน ไม่ให้บันทุกภาพ ขณะที่ คฝ.กำลังจับกุมกลุ่มพี่น้องจะนะ

“รัฐบาลนี้ใช้วิธีนี้มานานแล้ว เสียชีพอย่าเสียสัตย์ นั่นเขาใช้เรียกลูกเสือ แต่ประเภทที่ไม่เคยรักษาสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับประชาชน เขาเรียกว่าลูกหมา” นางอมรัตน์ กล่าว

ทำให้นายชวน เตือนว่า ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะ แต่ไม่ได้ให้ถอนคำพูด นางอมรัตน์ สวนกลับว่า ไม่เหมาะอย่างไร ลูกหมาไม่น่ารักอย่างไร

ขณะที่น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือว่า ขอฝากไปยังนายกฯ กรณีใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมชาวจะนะ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ชุมนุมปราศจากอาวุธ แต่มีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ เพราะการที่มาชุมนุมเพราะเขาเห็นว่ารัฐบาลทำโครงการที่จะเอื้อต่อนายทุนและกระทบกับวิถีชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติ เขาถึงมาเรียกร้องนายกฯ เพียงแต่ไปชุมนุมที่ทำเนียบฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะทำเนียบฯ เป็นที่ทำงานของนายกฯ ประชาชนเจ้าของภาษีจะเข้าใกล้ทำเนียบฯไม่ได้หรือ และทำเนียบฯไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงอยากให้นายกฯ ในฐานะดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ช่วยตรวจสอบการกระทำของตำรวจในครั้งนี้ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน