“คณะราษฎรยกเลิก 112” โดย ครูใหญ่-สมยศ ยื่นหนังสือถึง “สำนักงานอัยการสูงสุด” ขอให้ส่งศาล รธน.วินิจฉัยคำสั่ง ศาล รธน. 19/2564 ล้มล้างการปกครองหรือไม่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม 64 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ตัวแทน คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) เข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 19/2564 เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หรือไม่ โดยนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับหนังสือ

นายประยุทธ ให้สัมภาษณ์ว่า ทางงานโฆษกทำหน้าที่รับเรื่อง และกราบเรียนต่ออัยการสูงสุดต่อไป ส่วนความคืบหน้าว่าอัยการจะมีความเห็นหรือคำวินิจฉัยว่าอย่างไร งานโฆษกจะเรียนให้กับผู้ร้องและสื่อมวลชนทราบ ในโอกาสต่อไป ส่วนอัยการสูงสุดมีอำนาจหน้าที่เพียงใด กฎหมายให้อำนาจเพียงใด ทางงานโฆษกไม่ขอออกความเห็น

นายอรรถพล กล่าวว่า ในวันนี้ที่มีการยื่นเรื่อง ไม่ได้มายื่นให้วินิจฉัยคำปราศรัยในประเด็นเดิม แต่เราขอให้วินิจฉัยผลจากคำวินิจฉัยของศาลรธน. เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ เพราะว่าหลังจากมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว มีการนำไปใช้ขยายผลอย่างกว้างขวาง เช่น การทำลายพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม การปิดกั้นสื่อ หรือมีการให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม และส่งผลกระทบต่อสิทธิของประชาชนในการเข้าชื่อเพื่อเสนอกฎหมาย ยกเลิกม.112

ในตอนปี 2555 มีการพยายามแก้ไขรธน. โดยสภา ผ่านวาระที่สองแล้ว ศาลรธน.มีคำวินิจฉัยในตอนนั้นว่า ยังไม่ได้เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ดังนั้น คำปราศรัยของนายอานนท์ อำภา นายภานุพงศ์ จาดนอก และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นเพียงข้อเสนอ จึงไม่สามารถเข้าใกล้การล้มล้างการปกครองได้ นายอรรถพล ระบุ

นายสมยศ กล่าวว่า เราได้ยกตัวอย่างว่า การล้มล้างการปกครอง คือการรัฐประหารโดยพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ในนามของคณะความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ซึ่งมีองค์ประกอบที่ชัดเจน คือ มีการใช้กองกำลัง แต่ว่าคนที่ชุมนุมปราศรัย การเสนอข้อเรียกร้อง จึงเป็นเพียงข้อเสนอให้มีการปฏิรูป พวกเราที่ใช้สิทธิเสรีภาพด้วยความปรารถนาดี วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตใจ กลับถูกวินิจฉัยว่าล้มล้าง ไอ้ที่ล้มล้างกลับไม่ถูกล้มล้าง ไอ้ที่ไม่ล้มล้างกลับถูกกล่าวว่าล้มล้างมันจะทำให้กระบวนการยุติธรรมนั้นบิดเบี้ยวไป

นายสมยศ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ศาลรัฐธรรมนูญออกคำวินิจฉัยเกินอำนาจ เช่นในมาตรา 49 ระบุว่า ให้ยกเลิกการกระทำดังกล่าว ซึ่งการปราศรัยได้จบไปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. แต่คำวินิจฉัยระบุว่า ให้เครือข่ายเลิกกระทำในอนาคตด้วย จึงมองว่าเป็นคำวินิจฉัยที่เกินขอบเขต

นอกจากนี้ นายสมยศ ยังระบุว่า จะฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอีกอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนธันวาคมนี้ และเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมในวันที่ 12 ธ.ค. ตั้งแต่ 16.00-21.00 น. ที่แยกราชประสงค์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน