เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ผ่อนคลายกรอบเวลาการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง ทำให้ถูกมองว่าทำให้พรรคการเมืองใหม่ได้เปรียบพรรคเก่า ว่า ไม่มี แต่จะทำให้พรรคใหม่และเก่าอยู่ในสถานะเริ่มต้นไปพร้อมกัน มิฉะนั้นพรรคเก่าจะได้เปรียบพรรคใหม่เมื่อเป่านกหวีดให้เริ่มดำเนินการได้ เพราะพรรคเก่ามีสมาชิกและมีพรรคอยู่แล้ว รอเพียงเวลาที่จะเปิดให้ประชุมใหญ่ของพรรคได้ แต่พรรคใหม่ต้องมีคน 15 คน ไปแจ้งชื่อพรรคและหาสมาชิก 500 คน รวมถึงหาคณะกรรมการบริหารพรรค จากนั้นจะเริ่มประชุมพรรคโดยมีสมาชิก 250 คน โดยที่ยังไม่มีชื่อพรรคเลย และเมื่อประชุมเสร็จก็ไปยื่นคำขอจดทะเบียนตั้งพรรค ซึ่งจะต้องใช้เวลา 1 เดือนในการพิจารณาว่าจะให้ตั้งพรรคได้หรือไม่ ทำให้พรรคใหม่จะเสียเปรียบ ส่วนพรรคเก่าเดินหน้าไปหมดแล้ว ดังนั้นต้องลดถอยเวลาลงมา 1 เดือนให้พรรคใหม่สามารถดำเนินการไปได้บางส่วนก่อน โดยให้พรรคใหม่สามารถยื่นขอจองชื่อพรรคไว้ก่อนได้ หาสมาชิกและประชุมครั้งแรกโดยขอคสช.ประชุมก่อนได้

รองนายกฯ กล่าวว่า ส่วนการดำเนินการธุรการตามคำสั่งนี้พยายามยึดกรอบเวลาเดิมที่กำหนดไว้ในพ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งกำหนดกรอบเวลา 90 วัน และ 180 วัน เริ่มตั้งแต่บังคับใช้พ.ร.ป.ดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2560 ดังนั้นจะเปลี่ยนจากการนับจากวันที่ 8 ต.ค.2560 ไปนับจากวันใดวันหนึ่งสักวันแทน ทั้งนี้เป็นการเลื่อนการนับวัน ไม่ใช่เป็นการขยายเวลาออกไป แต่ยังตอบไม่ถูกว่าจะเริ่มนับเมื่อใด อย่างไรก็ตามการเลื่อนวันออกไป เมื่อดูจากปฏิทินแล้ว ไม่กระทบกับโรดแมป เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าระยะเวลาที่ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน สำหรับการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมอื่นๆได้ คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่จะออกมานั้น จะบอกไว้ว่าจะปลดล็อกเมื่อใด เพื่อให้รู้ล่วงหน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน