“ปิยบุตร” ชี้ ปี 64 “ก้าวหน้า” แม้จะได้เก้าอี้สนามท้องถิ่นน้อย แต่เข้าวินรื้อระบบอุปถัมภ์ ลุย เดินหมากปักธงวิธีคิด-ไม่ใช้กลไกดึงมุ้ง เผย วางเกมระยะยาว 16 ปี ล้างบางอิทธิพลเจ้าพ่อเจ้าแม่

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมการทำงานของคณะก้าวหน้าใน ปี 2564 ว่า หลายคนคิดว่าสนามเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า ทั้ง เทศบาล อบต. หรือ อบจ. เราไม่ประสบผลสำเร็จเพราะได้จำนวนน้อย แต่เราถือว่าสำเร็จ ในแง่ที่เราต้องการเปลี่ยนหลายเรื่อง เช่น การเปลี่ยนเรื่องฮั้วในการเมืองท้องถิ่น โครงข่ายโยงใยไปถึงการเมืองระดับชาติ

บางที ส.ส.พรรคเดียวกันสนับสนุนนักการเมืองท้องถิ่นคนละคน หรือ ส.ส.ต่างพรรคจับมือกันในระดับ อบจ. ซึ่งตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ มีคนทักท้วงว่าเรื่องการเมืองระดับชาติอย่าไปยุ่ง ระวังพรรคแตก แต่ตนบอกว่าตอนนั้นจะให้อนาคตใหม่จะลงท้องถิ่น เพราะเชื่อว่าเฉดสีหรือสังกัดการเมืองควรแบ่งด้วยอุดมการณ์ ความคิด แนวทางนโยบาย เราเน้นแข่งขันกันทางนโยบาย ไม่ใช่เรื่องอิทธิพล กลไกรัฐ ความสัมพันธ์เครือข่าย ตระกูลการเมือง แม้ไม่ประสบผลสำเร็จในแง่จำนวน แต่อย่างน้อยเราเอาความคิดเข้าไปปลูกฝังแล้วว่า การเมืองท้องถิ่นเลือกกันที่นโยบาย ไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์

“เราได้มาในระดับเทศบาล ตำบล 16 แห่ง นายกเทศมนตรีก็ทำพันธสัญญา เช่น ภายใน 99 วัน ทำน้ำสะอาดใช้อุปโภคบริโภคได้ ซึ่งพอเราทำได้จริงในท้องถิ่นอื่นๆ รวมถึงคู่แข่งอาจจะเห็นและเปลี่ยนในอนาคต ไม่ใช่เปลี่ยนทันที ถ้าจะให้สรุปภาพรวมท้องถิ่นในปี 2564 เราสำเร็จในแง่การเปลี่ยนวิธีคิด เรื่องจำนวนเป็นเรื่องรอง หากผมกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อยากได้จำนวนเยอะๆ ตั้งแต่ระดับ ส.ส.ของอนาคตใหม่ หรือระดับท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า ทำไมจะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องไปซื้อ ไปเอามุ้งโน้น มุ้งนี้ ดูดกันมา ใช้อิทธิพลกลไกรัฐอย่างไร เรารู้แต่จงใจไม่ทำ การเมืองแบบเดิมเป็นการกระจายอำนาจเชิงระบบอุปถัมภ์

กลายเป็นว่าประชาชนต้องมาอยู่ด้วยระบบอุปถัมภ์ คนที่มอบความค้ำจุนให้ก็สามารถนับเป็นบุญคุณ ต้องไปทุจริตคอร์รัปชั่นจากเงินทอนของรัฐ เพื่อเอามาอุปถัมภ์ค้ำจุน ทำไมเราไม่เปลี่ยนตรงนี้ให้กลายเป็นหน้าที่รัฐกับสิทธิพลเมือง และไม่มีใครมีบุญคุณต่อกัน ผมเข้าใจดีว่าเป็นอย่างนี้มาตลอด ผมไม่เคยโทษชาวบ้าน แต่ในฐานะเราเป็นฝ่ายการเมืองต้องลงมานำเสนอแบบนี้ ไม่อย่างนั้นก็วนในอ่างเดิมๆ” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร เปิดเผยด้วยว่า ตอนสมัยตั้งพรรคอนาคตใหม่ คนนั้นคนนี้ย้ายพรรคกันไป สาเหตุมาจากอะไร คนที่เป็น ส.ส.เขต เขาบอกว่าพรรคไม่มีการสนับสนุนเลย ของจะไปแจกชาวบ้านก็ไม่มี งบรัฐบาลก็ไม่มาลง คู่ต่อสู้เขามีเต็มไปหมด ซึ่งนอกจากตนจะไม่มีให้แล้ว ตอนอนาคตใหม่ตนบอกด้วยว่าให้ส.ส. ช่วยกันหักเงินเดือนเข้าพรรค ซึ่งเรื่องนี้ทางแก้มี 2 ทาง คือ 1.ทำแบบที่เขาทำ ใส่เงินไปเยอะๆ 2.คือค่อยๆ เปลี่ยนความคิดคน ซึ่งต้องใช้เวลา แต่การใส่เงินไปเยอะๆ นั้น

ถามหน่อยว่าเอาเงินมาจากไหน คิดว่าสื่อมวลชนตอบได้อยู่แล้ว พรรคการเมือง นักการเมือง เจ้าพ่อเจ้าแม่ประจำจังหวัดเอาเงินมาจากไหน เวลาเอาไปสร้างระบบอุปถัมภ์ค้ำจุน หนีไม่พ้นต้องไปโยงใยกับเรื่องเงินทอน ทุจริต คอรัปชั่น แล้วทำไมเราไม่เปลี่ยนความคิดความสัมพันธ์เช่นนี้ให้มันเป็นหน้าที่ของรัฐกับสิทธิพลเมือง แทนที่จะเป็นเรื่องของฉัน ฉันเป็นเจ้าพ่อฉันเป็นเจ้าแม่ ฉันจะไปคอรัปชั่นมาแล้ว ฉันก็จะเอามาแบ่งให้เธอ ซึ่งมันก็เป็นการเมืองสองเลน สองทาง แบบเดิมเขาทำแบบนี้ แต่ตนจะทำแบบใหม่อีกแบบหนึ่ง แม้จะแพ้หลายสนามได้จำนวนมาน้อยก็ไม่เป็นไร แต่ในอนาคตจากรุ่นสู่รุ่น 4 ปี 8 ปี 12 ปี หรือ16 ปี ตนเชื่อว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน