อุตตม-สนธิรัตน์ เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย โวยังมีคนหนุนหลังอื้อ ไม่ใช่พรรคอะไหล่ ลั่นเดินหน้าแล้วไม่หันหลังกลับ ยันไม่เสนอชื่อ ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ม.ค.2565 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน แถลงเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย โดยมีนักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ เข้าร่วม อาทิ นายสุพล ฟองงาม นายสันติ กีระนันทน์ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ เลขานุการส่วนตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือนายสะอาด นักร้องชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกฯ ได้มาร่วมสังเกตการณ์ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้แค่มาร่วมงานตามคำเชิญ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้เรามาประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันแก้ปัญหาและสร้างอนาคตไทย และจะไม่ได้เป็นแค่พรรคการเมือง แต่เป็นพื้นที่เปิด รวบรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพในทุกภาคส่วน ร่วมระดมความคิดเห็น ช่วยกันคิด ช่วยกันทำเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ ซึ่งสถานการณ์ประเทศน่าเป็นห่วง ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปัญหาปากท้องและโรคระบาดโควิด

นายอุตตม กล่าวว่า ตลอด 1 ปีครึ่งที่เราออกจากรัฐบาล เรามีโอกาสพบเจอผู้คนมากมาย ได้รับฟังเสียงสะท้อน ความต้องการที่อยากเห็นสมการเมืองที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง

“ขอเรียนว่าเราจะไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกง ไม่ปล้นชาติ อาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย ผมขอถือโอกาสนี้ เชิญประชาชนทุกคนมาสร้างอนาคตไทยด้วยกัน” นายอุตตม กล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่วันเปิดพรรค แต่เราเอาผู้ที่มีเจตนารมณ์ที่จะสร้างพรรค มานำเสนอต่อสาธารณชน พรรคนี้เกิดขึ้นเนื่องด้วยสถานการณ์ของบ้านเมือง ที่ผ่านมาเรา 2 คน ไม่คิดจะกลับมาทำงานการเมืองอีก เพราะเราเพียงพอแล้ว แต่สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ประชาชน อยากฝากความหวังให้อยู่รอดต่อไปได้ ทั้งจากวิกฤตโควิด ปัญหาปากท้อง

สิ่งเหล่านี้ทีมงานของพวกเราได้หารือกันแล้วว่า เราจะต้องเข้ามาสร้างซึ่งความหวังของประชาชน หากประชาชนขาดความหวัง และความร่วมมือ ประเทศจะเดินหน้าไปไม่ได้ พวกเราเห็นว่าสิ่งที่มีอยู่ในขณะนี้อาจไม่พอกับการสร้างความหวังให้กับประชาชน

“เราได้รวบรวมขุนพลชุดที่ 1 มาร่วมก่อตั้งพรรคนี้ แต่ยังมีอีกหลายคนที่จะมาเปิดตัวกับพรรคนี้ บางท่านก็ขอช่วยแบบไม่เปิดเผยตัว เรามีตั้งแต่อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีคนที่อยู่กับธนาคารโลก เรามีนักธุรกิจที่เข้าใจธุรกิจเอสเอ็มอี เรามีคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล มีทั้งปราชญ์ชาวบ้าน สิ่งเหล่านี้จะตกผลึกมาเป็นนโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทย ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะมาจากคนทุกภาคส่วนมาขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยกัน” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคนี้ไม่ใช่สร้างมาเพื่อการเลือกตั้งอย่างเดียว เราจะสร้างนักการเมืองที่มีความพร้อมเข้าไปบริหารประเทศ ไม่ใช่ไปแค่มีตำแหน่งอย่างเดียว เราจะสร้างส.ส.ที่มีความพร้อมไปทำงานนิติบัญญัติ แก้ปัญหาใหักับประชาชน

จากนั้นนายอุตตม ให้สัมภาษณ์ว่า จุดยืนของพรรค คือการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและวางรากฐานของประเทศ และการบอกว่าไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งนั้น สามารถขับเคลื่อนประเทศไม่ต้องการเป็นหนึ่งในความขัดแย้ง ขณะที่การทำงานร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในอดีตนั้น เป็นการทำงานร่วมกันในรัฐบาล และทำงานให้บ้านเมืองได้ทำงานในหลายเรื่องที่บรรลุและมีความคืบหน้า และเมื่อเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนจึงออกมา ถามว่าวันนี้ทำงานให้ประชาชน ไม่ได้ทำเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น เดินออกมาแล้วไม่หันหลังกลับ

เมื่อถามถึง การสนับสนุนบุคคลใดเป็นนายกฯ นายอุตตม กล่าวว่า ผู้ที่เข้าข่ายจะมีคุณสมบัตินำพาประเทศผ่านความขัดแย้ง มีความสามารถเชิงบริหารและเป็นการยอมรับในวงการต่างประเทศ และยืนยันว่าไม่ใช่พรรคอะไหล่ของ พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อถามว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นชื่อที่อยู่ในใจหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า นายสมคิดไม่ทอดทิ้งพวกเรา และคิดว่ามีความเหมาะสม แต่การมารวมกันจะช่วยพิจารณาว่ามีบุคคลใดบ้าง โดยมี 3 ตำแหน่งในการที่จะเสนอ โดยนายสมคิด จะอยู่ใน 3 รายชื่อหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของพรรคต่อไป

ขณะที่นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า เคยร่วมก่อตั้งพปชร. และมีอุดมการณ์ในการทำงานการเมือง กรณี พล.อ.ประยุทธ์ เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา และพล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดผ่านโฆษกรัฐบาลไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องในการสร้างพรรคในครั้งนี้ ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวไปแล้วและไม่ได้ทำพรรคเพื่อสืบทอดในเรื่องของอำนาจให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทำพรรคเพื่อให้เป็นหนึ่งในตัวแทนในการมาช่วยแก้ปัญหา

พรรคยืนยันว่าจะไม่เสนอ ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พรรคมีจุดยืนที่จะสรรหานายกฯที่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศได้ และเป็นที่ยอมรับของผู้คนและนำพาประเทศให้แข่งขันกับนานาประเทศได้

นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงการเลือกตั้งว่า การยุบสภา และเลือกตั้งเป็นอำนาจของ นายกฯ ซึ่งพรรคเตรียมความพร้อมตั้งแต่ตอนนี้เพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน