ฝ่ายค้านยื่นแล้ว ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.152 พุ่งเป้าอัดรัฐบาล แก้ศก.เหลว-ของแพง-โรคระบาดหมู-บริหารไร้ประสิทธิภาพ คาดเปิดซักฟอกกลาง ก.พ.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ม.ค.2565 ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ (ปช.) นายสงคราม กิจโรจน์ไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ โดยมีผู้เข้าชื่อเสนอทั้งหมด 173 คน จาก 7 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์

โดยเนื้อหาสาระที่จะอภิปรายแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.วิกฤตเศรษฐกิจ ในยุคข้าวของแพง ค่าแรงถูก แพงทั้งแผ่นดิน 2.วิกฤตโรคระบาด ทั้งโควิด-19 และโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF)

3.วิกฤตด้านการเมือง ยุคปฏิรูปการเมืองที่ล้มเหลว ยุคการเมืองที่ใช้เงินเป็นหลัก และ 4.วิกฤตความล้มเหลวเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ที่ไร้ประสิทธิภาพก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น ปัญหายาเสพติด ทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาวะฝุ่นพิษ การบริหารที่ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ

ส่วนวันเวลาอภิปราย เนื่องจากปีนี้มีเนื้อหาสาระค่อนข้างมาก เราเจรจาขอเวลาไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดในการเปิดอภิปรายคือ วันที่ 16-18 ก.พ.

เมื่อถามถึงความคาดหวังของฝ่ายค้านหลังเปิดอภิปรายครั้งนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสภาได้ แต่เนื้อหาสาระที่เราเสนอเป็นข้อเท็จจริง ที่จะบอกกับประชาชนโดยตรงผ่านสภาถึงสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติ และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ฉะนั้น มั่นใจว่าความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับจะส่งผลโดยตรงต่อรัฐบาล จากการกดดันของภาคประชาชนที่เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากทุกกลุ่มและทุกอาชีพ เราคาดว่ารัฐบาลน่าจะรับฟังเสียงของเราในสภาและเสียงประชาชน ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองไปในทางที่ดี รัฐบาลก็ควรพิจารณา เพราะครม.คือปัญหาสำคัญที่สุด

นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า การยื่นญัตติอภิปรายในช่วงนี้ คาดว่าจะมีการอภิปรายช่วงกลางเดือน ก.พ. ส่วนระยะเวลาที่จะใช้อภิปราย ให้ตัวแทนผู้ควบคุมเสียงทั้งสองฝ่ายหารือกันต่อไป ทั้งนี้ จะนำญัตตินี้ไปตรวจสอบรายชื่อตามวิธีการของสภาและตามข้อบังคับ ก่อนบรรจุระเบียบวาระ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน