ดีอีเอสเผย ชัยวุฒิ อาการดีขึ้น ผนึกเครือข่ายกว่า 300 หน่วยงานต้านข่าวปลอม เร่งตรวจสอบแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ เเอบอ้างเอกสารราชการปลอมหลอกประชาชน

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2565 ที่โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขานุการรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการประสานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และมอบนโยบายการบูรณาการการประสานศูนย์ฯว่า เเม้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส จะอยู่ระหว่างพักรักษาตัวจากโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาล ล่าสุดอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ หรือมีอาการใดๆ แต่เเพทย์ให้พักรักษาตัว ต่อไป ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ ไม่ได้หยุดงาน ได้มอบหมายภารกิจตลอดเวลา

นายเอกสิทธิ์ กล่าวว่า นายชัยวุฒิ เป็นห่วง เเละให้ความสำคัญกับสถานการณ์ข่าวปลอมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการหลอกหลวงออนไลน์ และเเก็งมิจฉาชีพ คอลเซ็นเตอร์ ที่ตอนนี้ถึงขั้นทำเอกสารปลอมทางราชการ ไปหลอกหลวงประชาชน หรือมีการโฆษณาชวนเชื่อ ให้ซื้อสินค้าทางออนไลน์ หรือข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนก เเละเสียหายให้กับคนในสังคม

เราจึงผนึกกำลังรวมศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ซึ่งมีเครือข่ายผู้ประสานงานกว่า 300 หน่วยงาน ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง อีกทั้งมีเครือข่ายนิติกร ให้ความร่วมมือตรวจสอบและยืนยันข่าวให้กับศูนย์ฯ ซึ่งกระทรวงให้ความสำคัญกับการบูรณาการการทำงานร่วมกันให้ได้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด

นายเอกสิทธิ์ กล่าวว่า เครือข่ายผู้ประสานงาน ถือเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ได้แจ้งเตือนให้แก่ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ทราบถึงข้อมูลอันเป็นเท็จ และข้อมูลที่ถูกต้องผ่านช่องทางต่างๆ

ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ และสื่อในระบบอินเตอร์เน็ต ถูกผู้ไม่หวังดีใช้เป็นช่องทางนำเสนอข่าวสารข้อมูลอันเป็นเท็จ มีการตัดต่อข้อมูล เนื้อหา การนำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยปราศจากข้อเท็จจริง เพื่อสร้างผลกระทบในทางลบต่อสังคมและประชาชนโดยรวม นำมาซึ่งความเสียหายทางสังคม เศรษฐกิจและประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงพยายามแก้ปัญหาข่าวปลอม โดยใช้เครื่องมือทางกฎหมาย ในการดำเนินการ

ด้านน.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ ผู้ตรวจราชการ ดีอีเอส กล่าวว่า ภาพรวมของข้อความข่าวคัดกรองของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ที่ผ่านมาช่องทางที่พบเบาะแสมากสุด มาจาก SocialListeningTools คิดเป็นร้อยละ 99.83 โดยในช่วงปีงบระมาณ 2564 ศูนย์ฯ ใช้เครื่องมือตรวจสอบข้อความที่เป็นกระแสมากขึ้นประมาณ 16 เท่า และมีจำนวนเรื่องที่ต้องส่งตรวจสอบเพิ่มขึ้นกว่าปีงบประมาณก่อนหน้า ร้อยละ 3.78

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน