“พิชัย เพื่อไทย” ชี้ รัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตดีเซล “น้อยไป-ช้าไป” ทำสินค้าราคาพุ่ง ดีเซลทะลุเกินกว่าจะลดภาษีแล้ว แนะคิดล่วงหน้า งดเก็บภาษีสรรพามิตรแบบยุค “ยิ่งลักษณ์”

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ และอดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท เห็นว่าเป็นแนวทางที่ลดน้อยและลดช้าเกินไป ทั้งนี้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคพท.ได้แนะนำ และเรียกร้องมานานหลายเดือนแล้วให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำม้นดีเซลลิตรละ 5 บาท แต่พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธมาตลอด แต่สุดท้ายก็ต้องลดตามคำแนะนำ แต่ภาษีสรรพสามิตที่ลดมีปริมาณน้อยเกินไป เพราะไม่ได้ช่วยให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลง

ถ้าลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลตั้งแต่ที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรค พท.เสนอ ราคาสินค้าก็จะไม่ขึ้นราคามากขนาดนี้ ข้าวของคงไม่แพงทั้งแผ่นดินแบบนี้ และหากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงสูงขึ้นอีกตามแนวโน้มทิศทางราคาน้ำมันโลก ราคาสินค้าก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีก อีกทั้งการที่จะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท เพียง 3 เดือนน่าจะไม่เพียงพอและเป็นไปไม่ได้เลย เพราะราคาน้ำมันโลกไม่น่าจะลดลงได้ภายใน 3 เดือน มีแต่ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ดังนั้นประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันครั้งนี้แต่อย่างใด

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ในภาวะราคาพลังงานโลกที่กำลังผันผวน มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันจะแพงขึ้นไปอีก พล.อ.ประยุทธ์ต้องหัดคิดล่วงหน้า ต้องกลับไปคิดว่าในเมื่อราคาน้ำมันราคาจะยิ่งพุ่งขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนลง พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง ให้เท่ากับในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือเหลือการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียงลิตรละ 0.005 บาท (ครึ่งสตางค์) เท่านั้น เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนล่วงหน้าก่อนที่ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นอีก

ทั้งนี้ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องกลืนน้ำลาย จำต้องลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลทั้งที่ปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด แสดงถึงความล้มเหลวขาดวิสัยทัศน์ ความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการราคาพลังงาน นับเป็นความล้มเหลวซ้อนความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจด้วย ถ้าหากยังไม่รู้ตัวและยังคงดื้อรั้นคิดว่าตัวเองยังบริหารประเทศได้ดี จะยิ่งทำให้ประเทศเสียหายมากยิ่งขึ้นไปอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน