ทวี นำทีมร่วมงานบุญเมืองขอนแก่น ล้อมวงคุยแก้ปัญหาเกษตรกร เร่งผลักดันนโยบาย ส่งเสริมระบบบำนาญแห่งชาติ สวัสดิการถ้วนหน้า และปุ๋ยแห่งชาติ มั่นใจแก้ปัญหาได้ผล

วันที่ 21 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ และคณะ ประกอบด้วย นายมนตรี บุญจรัส รองโฆษกพรรคประชาชาติ และนายไชยพล เดชตระกูล กลุ่มคนรุ่นใหม่พรรคประชาชาติ เดินทางมาที่วัดป่าอินทรกำแหง ต.โนนพะยอม อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เพื่อเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ผ้าป่าสามัคคี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ก.พ. โดยมีนายนาวิน คำเวียง นางละอองดาว คำเวียง ในฐานะ ประธานสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) พรรคประชาชาติ พร้อมด้วยสมาชิกพรรคประชาชาติในพื้นที่ และประชาชนจำนวนมาก

โดยพ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวทักทายและชื่นชมในความตั้งใจของประชาชนที่ร่วมทำบุญ ซึ่งทุกคนแสดงความดีใจ มีความสุขที่ได้รวมงานทอดผ้าป่า

จากนั้นในช่วงบ่าย พ.ต.อ.ทวี และคณะ เดินทางไปยังวัดป่าธรรมประชานารถ (วัดป่าบ้านขนวน) ต.กุดกว้าง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เพื่อลงพื้นที่ พบปะแลกเปลี่ยนความเห็นกับกลุ่มเกษตรกรและประชาชน รวมถึงสมาชิกพรรคประชาชาติในพื้นที่ โดยมีนายชัยวัฒน์ รัตนคำมูล นายกเทศมนตรีกุดกว้าง ให้การต้อนรับ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงนโยบายด้านการเกษตรของพรรคประชาชาติว่า จากสถานการณ์ปุ๋ยแพง เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน เพราะต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น ส่งต่อเป็นลูกโซ่ไปยังผู้บริโภคปลายทางที่ราคาผักผลไม้และอาหารที่เกี่ยวกับภาคการเกษตรสูงขึ้นตามด้วย ประเทศไทยนำเข้าแม่ปุ๋ยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนเกือบ 100% เมื่อจีนและประเทศต่างๆ ชะลอการส่งออก ทำให้ราคาปุ๋ยในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เกษตรกรเดือดร้อนถ้วนหน้า

จึงเตรียมการเสนอนโยบาย “ปุ๋ยแห่งชาติ” ขึ้นเป็นวาระเพื่อดูแลเกษตรกร จะช่วยเหลือเกษตรกรด้านต้นทุนการผลิตได้ อาจนำเรื่องแร่โพแทสเซียมภาคอีสานที่มีมาก มาใช้ประโยชน์เพื่อลดการนำเข้าและสนับสนุนการผลิตเพื่อส่งออกสร้างรายได้ให้ประเทศอีกทางหนึ่งด้วย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ที่เรียกว่ารวยกระจุกจนกระจาย เตรียมต้องผลักดันให้นำหลักการสวัสดิการ หรือรัฐสวัสดิการใช้ ที่ผ่านการพิสูจน์ในหลายประเทศว่า เป็นหนทางแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ดีที่สุด โดยพรรคประชาชาติ มีนโยบาย“ส่งเสริมระบบบำนาญแห่งชาติและสวัสดิการถ้วนหน้า” ซึ่งรัฐต้องจัดให้ประชาชนอย่างเสมอหน้า ด้วยสิทธิ์ที่เสมอกัน ไม่ว่ายากดีมีจน ภายใต้หลักการที่ว่าสวัสดิการเป็นสิทธิ์ อันพึงมีของประชาชน มิใช่เพียงแค่หน้าที่ของรัฐในการสงเคราะห์คนอนาถา

ที่ผ่านมา พรรคประชาชาติ เสนอ ร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ ไปตั้งแต่ปี 2563 ที่บุคคลอายุ 60 ปีขึ้นไป ทุกคนต้องมีบำนาญบำนาญหรือเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท/เดือน แต่นายกฯ เห็นว่าเป็นร่างกฎหมายการเงิน จึงไม่เห็นชอบ ซึ่งพรรคประชาชาติไม่เห็นด้วยกับการตัดสินทำแท้งกฎหมายดังกล่าวของนายกฯ ทำให้ประชาชนเสียโอกาส ซึ่งนโยบาย 3,000 บาทบำนาญถ้วนหน้านี้ มีพรรคอื่นได้นำมาหาเสียงอยู่ขณะนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีจะได้ช่วยกันพลักดันให้เกิดสวัสดิการประชาชนเกิดขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน