ไทยมอบ 2 ล้าน ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับยูเครน มอบหมายให้ ถานทูตไทยในกรุงวอร์ซอ ดำเนินการจัดซื้อสิ่งของเพื่อช่วยเหลือและนำไปมอบให้ประชาชนในพื้นที่

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.65 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับคำร้องขอรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจาก สถานทูตยูเครนประจำประเทศไทย เนื่องจากการสู้รบในยูเครนที่ดำเนินอยู่ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย

กระทรวงการต่างประเทศจึงได้อนุมัติงบประมาณให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน 2 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ สถานทูตไทยในกรุงวอร์ซอ ดำเนินการจัดซื้อสิ่งของเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและนำไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ผ่านสภากาชาดยูเครนหรือองค์การระหว่างประเทศที่เหมาะสมอื่น ๆ

การดำเนินการของรัฐบาลไทยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน โดยเมื่อปี 2562 ไทยเคยบริจาคเงินช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการแพทย์แก่ผู้พลัดถิ่นในภาคตะวันออกของยูเครน จำนวน 1 ล้านบาท

นายธานี กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในยูเครนว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน การอพยพคนไทยในยูเครนได้ดำเนินการผ่านสถานทูตในกรุงวอร์ซอ โดยอพยพคนไทยจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน เมืองลวิฟ ผ่านโปแลนด์ และผ่านสถานทูตในกรุงบูคาเรสต์ โดยอพยพคนไทยจากเมืองโอเดซาและเมืองใกล้เคียงผ่านโรมาเนีย โดยระหว่างวันที่ 25 ก.พ. – 6 มี.ค. 2565 กระทรวงการต่างประเทศได้อพยพคนไทยที่ประสงค์ออกจากยูเครน 230 คนเสร็จสิ้นแล้ว จากคนไทยในยูเครนทั้งหมด 256 คน และจัดให้คนไทยเดินทางกลับโดยเครื่องบินพาณิชย์จำนวน 7 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 8 มี.ค. รวมทั้งสิ้น 223 คน

โดยมีบางส่วนเดินทางกลับประเทศไทยด้วยตนเอง สำหรับคนไทยจำนวน 26 คนที่ตัดสินใจพำนักอยู่ในยูเครนต่อไป สถานทูตขอให้พิจารณาเดินทางออกจากยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานทูตทางไลน์ระหว่างสถานทูตกับคนไทยในยูเครนได้ตลอดเวลา หรือโทรศัพท์ฉุกเฉิน หมายเลข +48 696 642 348

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ในการอพยพคนไทยกลับทุกเที่ยวบิน นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล และรองอธิบดีกรมการกงสุลทั้ง 2 ท่านคือ นายณรงค์ บุญเสถียรวงศ์ นายจาตุรนต์ ไชยะคำ พร้อมเจ้าหน้าที่ กรมการกงสุล ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมโรค กระทรวงแรงงาน และท่าอากาศยาน ต้อนรับและอำนวยความสะดวกที่สนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานทูตในกรุงเบิร์น สถานทูตในกรุงโดฮา สถานกงสุลใหญ่เมืองดูไบ และ สถานทูตในนครแฟรงก์เฟิร์ต ได้ประสานงานในการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในระหว่างเปลี่ยนเครื่อง

ในภารกิจการอพยพครั้งนี้ สถานทูตในกรุงวอร์ซอให้ความร่วมมือแก่สถานทูตฟิลิปปินส์ประจำโปแลนด์ในการอพยพชาวฟิลิปปินส์จำนวน 15 คน ออกจากยูเครนไปยังกรุงวอร์ซอ ซึ่งสถานทูตฟิลิปปินส์ในกรุงวอร์ซอ ได้แสดงความขอบคุณสถานทูตไทยสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้ ขณะที่สถานทูตไทยในกรุงบูคาเรสต์ได้ให้ความร่วมมือแก่สถานทูตไทยใน สิงคโปร์ประจำเยอรมนีในการอพยพชาวสิงคโปร์ จำนวน 2 คน ออกจากเมืองโอเดซาไปยังโรมาเนียด้วย ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของอาเซียนทั้งในยามปกติและยามวิกฤต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน