เพื่อไทย อัด 10 มาตรการรัฐแค่ภาพเล็ก ชูแผนบันได 3 ขั้นแก้เงินเฟ้อ-รายได้ฝืด ทั้ง ตรึงราคาสินค้าผ่านการสนับสนุนค่าจ้างไปที่นายจ้าง สนับสนุนลดค่าใช้จ่ายไปที่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) และผอ.ศูนย์นโยบายพรรคพท.กล่าวถึง 10 มาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลว่า เป็นเพียงภาพเล็กจากภาพใหญ่ทั้งหมด ที่ต้องมองในการแก้ปัญหาของแพง-รายได้ทรุด ปัญหาเงินเฟ้อ-รายได้ฝืด ภาวะของแพงของไทยนั้น คือ Cost-push inflation คือต้นทุนราคาน้ำมันและปัจจัยการผลิตปรับตัวขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต้นทุนสูงขึ้น ผลักภาระไปที่ผู้บริโภค ส่งผลทำให้สินค้าแพงขึ้น ที่สำคัญคือไทยเจอปัญหานี้ในขณะที่ยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด ทำให้เกิดภาวะของแพง ในขณะที่รายได้ยังทรุด การรับมือเงินเฟ้อ-รายได้ฝืด ขอเสนอแผนบันได 3 ขั้น

โดยขั้นที่ 1 ตรึงราคาสินค้าผ่านการสนับสนุนค่าจ้างไปที่นายจ้าง ปัจจัยเรื่องราคาน้ำมัน อยู่นอกเหนือการควบคุม การอุ้มราคาน้ำมันระยะยาวนั้นก็เกินกำลัง แต่โจทย์สำคัญ คือต้องตัดจุดเชื่อมโยงระหว่างราคาน้ำมันกับสินค้าแพง ทำอย่างไรต้นทุนราคาน้ำมันไม่ถูกส่งผ่านไปที่ผู้บริโภค ส่งผลให้ของแพงขึ้น คำตอบคือการลดต้นทุนการผลิตส่วนอื่นให้ผู้ผลิต เพื่อชดเชยต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า มาตรการที่ใช้แก้ Cost-push inflation ที่มีประสิทธิภาพสูง คือการสนับสนุนค่าจ้างแรงงานบางส่วนไปที่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือ Wage Subsidy โดยรัฐสนับสนุนค่าจ้างแรงงานบางส่วนตรงไปที่ผู้ประกอบการเป็นเวลา 6 เดือน โดยผูกกับเงื่อนไขการตรึงราคาสินค้า ไม่ขึ้นราคาสินค้า จะช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการด้านค่าจ้างชดเชยกับต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้ไม่ต้องผลักภาระไปที่ผู้บริโภค การป้องกันราคาสินค้าไม่ให้ขึ้นตั้งแต่แรกนั้นสำคัญมาก เพราะเมื่อสินค้าราคาขึ้นแล้วยากมากที่จะปรับลง ส่งผลเรื่องเงินเฟ้อลากยาวนานขึ้น

ขั้นที่ 2 สนับสนุนลดค่าใช้จ่ายไปที่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งตรงนี้แม้เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป เพื่อเป็นการลดภาระของประชาชนในยามที่ของแพงแต่รายได้ทรุด แต่ต้องไม่ใช่การหว่านแห แต่ต้องดูแลให้ครบทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ จาก 10 มาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลนั้น พุ่งตรงไปที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบบางส่วนเท่านั้น แต่ยังไม่ครอบคลุม เรายังไม่เห็นมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาปุ๋ย ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี ข้าวโพด ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับการเลี้ยงสัตว์ รวมถึงผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากค่าขนส่งระหว่างประเทศที่สูงขึ้น ภาคขนส่งสาธารณะและภาคโลจิสติกส์กลุ่มรถบรรทุก ก็ยังถูกละเลย และการขยายเวลายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เหล่านี้ยังไม่เห็น

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า ขั้นที่ 3 เร่งสร้างรายได้ให้กับประชาชน กระตุ้นการจ้างงาน การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด คือการทำให้คนมีรายได้ มีงานทำ เพียงพอที่จะสู้กับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ปัจจุบันมาตรการ Soft Loan ได้ถูกแปลงเป็นมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้ ซึ่งปัจจุบันมีปัญหามาก ยอดไม่เดิน ยังเหลือวงเงินอยู่ และยังไม่เห็นแนวทางจาก ธปท.ว่าจะทำอย่างไรกับวงเงินตรงนี้ ควรแปลงวงเงินตรงนี้ไปเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพื่อการกระตุ้นการจ้างงานและฟื้นฟูกิจการ โดยผูกเงื่อนไขการจ้างงานเพิ่ม เพื่อกระตุ้นการจ้างงาน โดยใช้กลไกธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น การแก้ปัญหาของแพง-รายได้ทรุด ปัญหาเงินเฟ้อ-รายได้ฝืด ต้องมองสาเหตุให้ชัด ต้องมองให้ครบ ไม่ใช่แค่ 10 มาตรการของรัฐบาล ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ให้ราคาน้ำมันส่งผ่านไปที่ราคาสินค้า ระหว่างทางต้องลดค่าใช้จ่ายไปที่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่หว่านแหแต่ต้องครอบคลุม และปลายทางที่สำคัญที่สุดการสร้างงานให้รายได้เพียงพอสู้ค่าครองชีพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน