เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2565 ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว BCC Hall แกรนด์ บอลรูม พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จัดงานดินเนอร์ทอล์ค ภายใต้ชื่องาน “Go Together, Go Further” เพื่อระดมทุนพรรค ซึ่งจัดที่นั่งโต๊ะละ 5 คน จำนวน 120 โต๊ะ โต๊ะละ 2 ล้านบาท รวมประมาณ 150-200 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยมีแกนนำพรรค ส.ส. สมาชิกพรรค ตัวแทนจากภาคเอกชน และนักธุรกิจ มาร่วมงานอย่างคึกคัก

เวลา 18.50 น. นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) บรรยายหัวข้อเรื่องเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกว่า คำว่า Go Together เราจะไปด้วยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างเดิน สถานการณ์บ้านเมืองของเราและสถานการณ์ของโลกในเวลานี้ ถ้าเราไม่เดินไปพร้อมกัน ตนคิดว่าจะเกิดสงครามในทุกด้าน ไม่ใช่สงครามที่เรารบพุ่งกันเอง แต่เป็นสงครามเศรษฐกิจโลก สงครามโรคภัยไข้เจ็บ สงครามความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมในโลก ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลกคงไม่มีครั้งใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าช่วงนี้ เรียกว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจริงๆในหลายๆเรื่องพร้อมกัน ไม่มีครั้งไหนรุนแรงเท่านี้มาก่อน

สำหรับปัญหาเรื่องโรคระบาดในตอนนี้เชื่อว่ายังไม่มีความเชี่ยวชาญชำนาญพิเศษ แต่โรคระบาดเกิดขึ้นได้ก็ต้องหายไปได้ บางคนบอกว่ามันไม่มีวันหายแล้วจะอยู่ตลอดไป แต่ตนคิดว่ามันก็เหมือนโรคระบาดหลายโรคที่เคยเกิดขึ้นมา

เมื่อเร็วๆนี้ตนได้พูดคุยกับสถาบันที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเขาสรุปว่าการที่ประเทศนิวซีแลนด์แก้ไขปัญหาการระบาดโควิด-19 ได้ดีนั้น มาจาก 1.รัฐบาลตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ไสยศาสตร์

2.รัฐบาลตะลุยฉีดวัคซีนเข็ม 3 ซึ่งเป็นเข็มบูสเตอร์ให้กับผู้สูงอายุเกิน 80 ปีเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับฮ่องกงซึ่งตอนนี้กำลังประสบปัญหาการระบาด มีการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุที่อายุเกินกว่า 80 ปี ไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตรงนี้สามารถเป็นบทเรียนให้กับประเทศไทยได้

และ 3.ภายใน 1 ปีโลกสามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันโควิดได้ สาเหตุเป็นเพราะทุกประเทศร่วมมือกัน มีการวิจัยร่วมกัน แต่ขณะนี้เกิดมีปัญหาในเรื่องการแชร์ข้อมูลความรู้ ที่ตนเล่าให้ฟังถึง 3 ข้อดังกล่าวข้างต้นเป็นเพราะต้องการจะสื่อสารให้ทราบว่าเรามีทางออก

สิ่งที่ไม่น้อยไปกว่าโรคระบาด คือ ปัญหาสงคราม เวลานี้โลกของเราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน แต่เราต้องระมัดระวังเรื่องการกระทบกระทั่งกัน โดยเฉพาะปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยูเครนเป็นหัวใจของสหภาพโซเวียตก่อนล่มสลาย ก่อนเป็นประเทศที่สามในโลกที่มีขีปนาวุธมากที่สุด เพราะเคยมีกองกำลังมาตั้ง

สำหรับไทยนั้นต้องเตรียมพร้อมรับมือ ตนคิดว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของเราที่หลายคนบอกว่ายาวนานเกินไปนั้น ตนเชื่อว่าจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับเราทุกด้าน ทั้งด้านความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำ การสร้างมนุษย์และการเจริญเติบโตกับสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมและด้านการศึกษา ทั้งหมดนี้อยู่ในยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเป็นการสร้างเกราะกำบังที่แข็งแกร่งให้กับเรา ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องเข้าใจในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และช่วยกันพยายามผลักดันโครงการนี้ต่อไป

“การเมืองบ้านเราเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง นโยบายก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ถ้าทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจะไม่มีทางสำเร็จได้ จึงต้องเป็นนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่อง โดยยุทธศาสตร์ชาติของเราชัดเจนว่าจะต้องพัฒนาคนอย่างไรให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่แค่การท่องจำ ผมขอให้คะแนนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในการผลักดันเรื่องการเกษตร และความสามารถในการแข่งขันสินค้าของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญอย่างมาก ผมขอให้คะแนนทั้งสองท่านสูงมาก”นายศุภชัย กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน