เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก ลงมารับเรื่องร้องเรียนที่ห้องรับรองในสำนักงานเลขานุการกองทัพบกด้วยตัวเอง ทั้งนี้ นายไพบูลย์ ได้นำตัวแทนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่ได้รับความเดือดร้อนมา เพื่อขอ คสช. ให้ตรวจสอบการทุจริตเกี่ยวกับสัญญาการจ้างทำความสะอาด ของตลาด ซึ่งดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมทั้ง ให้ตรวจสอบค่าเช่าร้านค้าที่แพงขึ้นถึง 14 เท่า โดย รฟท.อ้างว่านำเงินดังกล่าวไปจ้างบริษัททำความสะอาด นอกจากนี้ ขอให้ คสช. ส่งคณะทำงานไปดูแลความสงบเรียบร้อย เนื่องจากถูกกลั่นแกล้ง และตลาดซบเซา และ อยากให้ ผบ.ทบ. ประสานไปยัง ผู้ว่า กทม. รวมถึง รมว.คมนาคม เข้าไปแก้ปัญหา ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า มาในฐานะที่ดูแลเรื่องร้องเรียน ก็จะนำเรื่องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาส่งต่อให้ ส่วนราชการไปตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วจะแจ้งผลให้ทางเครือข่ายรับทราบต่อไป

นายไพบูลย์ กล่าวว่า การที่มายื่นหนังสือให้ เลขาธิการ คสช.เพราะเชื่อว่าทหารเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ซึ่งหลายเรื่องมีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล จึงเชื่อว่า คสช.จะดูแลทั้งเรื่องสงบ และความยุติธรรมได้ ไม่เฉพาะในต่างจังหวัด แต่ควรดูในใจกลางเมือง และอยากเชิญให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเดินตลาดจตุจักรไปเยี่ยมและดูแลผู้ค้าในตลาดนัดดังกล่าวบ้าง

นายไพบูลย์ ได้กล่าวถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศตัวเป็นนักการเมืองว่า การเข้ามาเป็นนายกฯ ก็ถือเป็นนักการเมือง เป็นนักบริหารจัดการเมือง ตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ท่านควรอยู่ในฐานะคนกลาง อย่าไปเป็นสมาชิกพรรค หรือ บัญชีพรรค ไม่เช่นนั้นก็จะไม่อยู่ในฐานะคนกลาง ส่วนที่บอกว่าเป็นนายกฯ คนนอก ก็เป็นเพียงแค่นอกบัญชีพรรคการเมือง ตามมาตรา 88 ของ รัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีนัยอะไรที่เปลี่ยนแปลงการคิดตามหลักคุณธรรมตามหลักการที่ตนคิดไว้ โดยคนที่เป็นนายกฯ ได้ ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความสามารถ ส่วนจะต้องเป็น ส.ส. หรือ อยู่ในบัญชีรายชื่อหรือไม่ คงไม่เกี่ยว และไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำคัญตรงที่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง รวบรวมผู้สนใจ และแจ้งความจำนง มีจิตสาธารณะในการจ่ายเงินบริจาคเป็นทุนประเดิมก่อตั้งคนละ 1,000 บาท ตอนนี้รวบรวมแล้วได้เกิน 500 คน แต่อยากรวบรวมให้ได้ 1,000 คน มีสมาชิกหลากหลายจากทั่วภูมิภาค และ มีอดีตทหารเกษียณร่วมอยู่ด้วย โดยวันที่ 1 มี.ค.นี้พร้อมยื่นรายละเอียด จัดตั้ง ภายใต้ชื่อ พรรคประชาชนปฏิรูป ตอนนี้ก็ยืนยันในหลักการก่อนว่าพรรคจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่ท่านเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม

“แต่สิ่งที่สำคัญคือ การรักษาความเป็นกลาง ท่านยังต้องอยู่ในฐานะ นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ก่อนการเลือกตั้ง ท่านไม่ควรอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรค ควรจะเป็นกลาง จากนั้น หลังการเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองแข่งขันกันแล้ว เมื่อเราเข้าไปอยู่ในสภาฯ ได้แล้ว ก็จะไปรวมสมาชิก ส.ส. ส.ว. กันให้ได้ 375 คน เพื่อรอสนับสนุนท่าน เมื่อเรารวมกันได้ 375 คน อีกข้างหนึ่งก็ไม่สามารถรวมกันเสนอตั้งใครมาเป็นนายกฯได้”

ส่วนที่มองว่าจะเกิดเหตุการณ์ต้านนายกฯ คนนอกเหมือนช่วง พฤษภาคม2535 นั้น ตนคิดว่าสถานการณ์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งตัวบุคคล และบริบทสังคมต่างกัน อีกทั้ง นัยนายกฯ คนนอกในปัจจุบัน หมายถึง นายกฯ นอกระบบบัญชี ถือเป็นนายกฯ คนกลาง เพราะการจะได้เป็นนายกฯ นั้น ต้องได้รับการสนับสนุนจากสภาฯ อย่างท่วมท้น จึงไม่มีปัญหา ส่วนพรรคการเมืองจะโวยวายก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเขาก็อยากสนับสนุนหัวหน้าพรรคการเมือง ถ้าเสียงไม่พอก็ไม่ได้ ทั้งนี้ พรรคการเมืองยุคนี้ ไม่ได้ใช้นายทุน หรือ เงินในการตั้งพรรคการเมือง เหมือนในอดีต เป็นลักษณะของการบริจาคจากอุดมการณ์เดียวกัน ใช้จ่ายอย่างพอเพียง จึงไม่ใช่นอมินีทหาร นายทุน หรือ กลุ่มการเมือง ใดๆ ทั้งสิ้น พรรคนี้ใช้นโยบายในการตั้งแบบ “คลีน แอนด์ เคลียร์” คือดำเนินการเปิดเผย และโปร่งใส ในการจัดตั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน