เมื่อวันที่ 15 ม.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ระบุต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยนิยม ว่า ตนไม่ทราบว่าประชาธิปไตยไทยนิยมเป็นแบบใด ซึ่งต้องระมัดระวัง การใช้คำดังที่มีความหมายในตัวของมันค่อนข้างชัด มีการไปแต่งเติมเงื่อนไขต่างๆ ก็คงต้องมาดูว่าถึงจุดหนึ่งเป็นการใช้ถ้อยคำที่เที่ยงตรงหรือไม่ อย่างกรณีประชาธิปไตยที่เคร่งครัดก็ต้องบอกว่า คือประชาธิปไตยเสรีนิยม ซึ่งมีหลักการพื้นฐานอยู่ ประชาธิปไตยคืออำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ความหมายคือประชาชนสามารถกำหนดทิศทางต่างๆของบ้านเมืองได้ แต่ความเป็นไทยในประชาธิปไตยแบบไทยๆอยู่ที่ไหน มีเรื่องอะไรที่เป็นแบบไทยๆ ตอนนี้บอกได้แบบเดียวว่าไม่เป็นสากลก็เลยเป็นไทย สำหรับตนไม่เคยปฏิเสธว่าการปรับให้เข้ากับสังคมวัฒนธรรมมีความจำเป็น แต่คงไม่ใช่เอาเรื่องวัฒนธรรมหรือสังคมมาเป็นข้ออ้างในการจะยกเว้นไม่ปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตย แต่ยังอยากจะใช้คำที่ดูเป็นเรื่องดี เป็นสากลอยู่ แล้วก็อ้างว่าเป็นอย่างนั้น

“ความเป็นประชาธิปไตยคือหลังการเลือกตั้ง ถ้าส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของคนที่มาจากการเลือกตั้ง เขาจะจัดตั้งรัฐบาล ไม่ควรจะมีการใช้อำนาจวุฒิสภาเพื่อฝืนเจตนารมณ์นั้น เพราะมันไม่ใช่ประชาธิปไตย หรืออย่าไปใช้คำว่าประชาธิปไตยแบบไทยนิยม ผมต้องถามว่าความเป็นไทยของวุฒิสภามีมากกว่าความเป็นไทยของการเลือกตั้งของคนไทยอย่างไร หากอ้างว่าทำตามรัฐธรรมนูญ ก็ต้องบอกว่ารัฐธรรมนูญนิยมกับประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องเดียวกัน เพราะในประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยก็มีรัฐธรรมนูญเช่นกัน หากยังจำกันได้ในสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีคำว่าประชาธิปไตยครึ่งใบ ซึ่งผมคิดว่าอย่างน้อยยังมีความตรงไปตรงมา ยอมรับเป็นประชาธิปไตยครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งไม่เป็น แต่ไม่ใช่บอกว่าเป็นประชาธิปไตยเต็มที่ เพราะมันไม่ได้เป็น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน