เสธ.ทอ.จัดโครงการดูหนัง Top Gun ย้ำเครื่องบิน F-35 จำเป็น เผยปีนี้ยื่นไม่ผ่าน ปีหน้าเอาใหม่ ฮึ่ม! หากเกิดสงคราม กองทัพวางแผนไม่ทัน จะเป็นตราบาป

วันที่ 1 มิ.ย.2565 พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เสนาธิการกองทัพอากาศ จัดกิจกรรมนำเยาวชนจากโรงเรียนรอบกองทัพอากาศมาชมภาพยนตร์เรื่อง Top Gun Maverickโดยพล.อ.อ.พันธ์ภักดีเผยว่าการจัดซื้อเครื่องบิน F-35 เป็นความจำเป็น เพื่อมาทดแทนเครื่องบินเก่าที่กำลังจะปลดประจำการ หากไม่ผ่านงบประมาณในปี 2566 ปี2567 ก็จะยื่นใหม่ เพราะเป็นโครงการทดแทนในสิ่งที่เราขาด

เสนาธิการกองทัพอากาศเผยว่า งบจัดซื้อเครื่องบิน F-35 จำนวนกว่า 700 กว่าล้านบาทนั้น ถ้าเริ่มต้นช้า อาจจะต้องยืดเวลาออกไปและอาจจะทบทวนโครงการอีกซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ ผบ.ทอได้ให้คณะทำงานได้มาวิเคราะห์ และมีการสัมมนาทางด้านยุทธการระดมผู้เชี่ยวชาญของกองทัพอากาศทั้งหมด ด้วยการวิเคราะห์สถานการณ์ทางด้านความมั่นคงและการเมืองทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงในอนาคต สรุปเป็นแนวทางจึงเกิดโครงการนี้ขึ้นมา

สงครามที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ ถ้าวันนี้เราไม่เริ่ม ในวันข้างหน้าหากมี ภัยสงครามเกิดขึ้น เราจะทำอย่างไร ก็จะเป็นตราบาปของกองทัพอากาศที่ไม่คิดวางแผนในการป้องกันประเทศเสียแต่เนิ่นๆ ถือว่าเราทำตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญและจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ทั้งนี้กองทัพอากาศทำงานกันหนักมากซึ่งเรามองว่าตั้งแต่ปี 2565-2575 เราจะต้องทยอยปลดประจำการเครื่องบินรบเพราะเครื่องบินเก่า จะมีค่าซ่อมบำรุงที่สูงมาก บางแบบค่าซ่อมบำรุง 3-5 เท่า หรือ 700,000-1,000,000 บาท ต่อเครื่องบิน 1 ลำ แต่ประสิทธิภาพก็เท่าเดิม หากเรามองว่าต้องปลดประจำการเครื่องบินรบออกไป 3 ฝูงบิน เราจะไม่มีโอกาสทดแทน 3 ฝูงบินแน่นอน

ดังนั้นจึงมาพิจารณาว่าเครื่องบินแบบไหนที่มีความสามารถและมีประสิทธิภาพ 1 ฝูงบิน แต่สามารถทดแทนได้ 3 ฝูงบิน สรุปว่า F-35 ตอบโจทย์ที่สุด ที่สำคัญยังมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพอากาศไทยกับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ที่มีมาอย่างยาวนาน เพราะส่วนใหญ่เราใช้อุปกรณ์ทางด้านการบินของสหรัฐซึ่งเราสามารถที่จะพัฒนาต่อยอดทำให้กองทัพอากาศมีความพร้อมในการป้องกันภัยคุกคามได้ในอนาคตสามารถเอา F-35 มาทดแทน ที่เราจะปลดประจำการ ได้ทั้งหมด

เมื่อถามว่า กองทัพอากาศถูกโจมตีว่าซื้อ F-35 มาจำนวน 2 ลำแต่ไม่มีระบบอาวุธ Tor ค่อนข้างจะเป็นความลับ ซึ่งสเปกจากขั้นต้นที่เรากำหนดก็คือ เราต้องการให้ระบบอาวุธของ F-35 ใช้งานกับระบบอาวุธที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ เพราะเราก็มีของทันสมัยอยู่ นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ ซึ่งไม่สามารถซื้อเป็นแพ็กเกจใหญ่ได้ ในเบื้องต้นกว่าอากาศยานจะมา กว่าจะฝึก และพร้อมปฏิบัติภารกิจ อีกประมาณ 10 ปี

ดังนั้นอาวุธอากาศยานอาจจะมีการพัฒนาไปอีกมหาศาล ทั้งเรื่องของไฮสปีด จรวดมิสไซล์หรือการโจมตีทางอากาศ เรามองว่าระบบอาวุธพัฒนาไปเร็วมากหากเราไปกำหนดตอนนี้ อาจจะล้าสมัยและไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ จึงมีการระบุว่า F-35 จะต้องใช้งานกับระบบอาวุธของกองทัพอากาศที่มีอยู่ได้

เรื่องเทคโนโลยีและอากาศยานสมัยใหม่เป็นเรื่องที่เราจะต้องตามให้ทัน หากตามไม่ทันเราจะเสียเปรียบ เมื่อเปรียบเทียบเครื่องบิน F-35 จำนวน 1 ลำ สามารถต่อกรกับ F-16 จำนวน 3.27 ลำ หมายความว่าถ้าในอนาคตเราจะมี F-35 ไม่เยอะ แต่มีในจำนวนที่เหมาะสมเพื่อมาทดแทนเครื่องบินของกองทัพอากาศที่กำลังจะปลดประจำการ อย่างมีประสิทธิภาพและที่สำคัญที่สุด เราจะได้เรียนรู้และก้าวทันเทคโนโลยีในอนาคต ไปพร้อมๆกับประเทศชั้นนำ ในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

ถือเป็นโอกาสดีของกองทัพอากาศที่จะได้พัฒนาเทคโนโลยี อากาศยาน ซึ่งเราก็มองว่าเราไม่ได้เตรียมอาวุธเอาไว้รบกับใคร แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องมีก็คือต้องปกป้องอธิปไตยของเราได้และต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ว่าการบริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับ และความมั่นคงในการรักษาอธิปไตย ให้อยู่ในความเหมาะสมและลงตัวที่สุด กองทัพอากาศจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง และให้สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน