บิ๊กตู่ เผย ครม. เคาะจัดสรรงบกลาง เยียวยาผู้ประกอบการ-เกษตรกร ยกเว้นภาษีจัดสัมมนานิทรรศการจรถึงสิ้นปี หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกกลุ่ม

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ก.ค.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมมีเรื่องพิจารณาที่สำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์ประชาชนส่วนรวมให้มากที่สุด

ครม.อนุมัติข้อเสนอโครงการพัฒนาเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565 ครั้งที่ 3 รวมมากกว่า 1,000 โครงการ 29 จังหวัด กรอบวงเงิน 1,943 ล้านบาท ซึ่งแต่ละจังหวัดจะนำไปจัดทำโครงการของแต่ละท้องที่ เป็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ทั้งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การปรับปรุงถนน การใช้เทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจชุมชน โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการเกษตร การประมง การผลิตปุ๋ยน้ำ โครงการที่สร้างประโยชน์ให้ชุมชน เช่น การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด เพื่อให้ได้รับประโยชน์มากกว่า 1 ล้านคน เกษตรกร 5 แสนคน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบหลักการร่างพ.ร.ฎ.ยกเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนการอบรม สัมมนา จัดนิทรรศการแสดงสินค้าภายในประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสถานการณ์พลังงาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งจะยกเว้นภาษี 2 เท่า สำหรับองค์กรที่มีการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดรองและ 1.5 เท่าในจังหวัดอื่นๆ และยกเว้นภาษี 2 เท่าให้กับการจัดนิทรรศการออกบูธในประเทศ โดยทั้ง 2 มาตรการนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.จนถึงสิ้นปี 65 เชื่อว่าองค์กรและผู้ประกอบการต่างๆ จะได้ประโยชน์ทั้งสิ้นมากกว่า 2,200 ล้านบาท

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกกลุ่มหนึ่งที่เราเป็นห่วงและให้ความสำคัญคือ กลุ่มเกษตรกร วันนี้ครม.อนุมัติงบกลางมากกว่า 1,000 ล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรจากกรณีโรคระบาดในสัตว์ 3 กรณี 1.ชดใช้ค่าสุกรและอาหารสัตว์ที่ถูกทำลาย ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาที่ระบาดในสุกร เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนและยารักษา 2.การซื้อวัคซีนเพื่อป้องกันและควบคุมโรคลัมปีสกินในโคกระบือ และ3.การช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรกรณีโคกระบือป่วยตายด้วยโรคลัมปีสกิน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โรคนี้ไม่ติดต่อสู่คน จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.อนุมัติงบกลางปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ประสบภัยธรรมชาติ 1,071 แห่ง วงเงิน 395 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ เป็นบางส่วนของมาตรการและนโยบายของรัฐบาลที่จะเดินหน้าขับเคลื่อน เพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ ท่ามกลางสภาวะที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกอย่างต่อเนื่อง ตนเชื่อว่าเราจะเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง จากสถานการณ์การคลังที่เรามีศักยภาพและโอกาสใหม่ๆ ในการเจรจากับต่างประเทศตลอดจนรายได้ครึ่งปีหลังก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตามนโยบายเปิดประเทศของเราแต่คงต้องระมัดระวังในเรื่องของโควิด-19 ไว้ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน