เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เสนอแก้ไขร่างกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ถัดไปอีก 90 วัน ภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา อาจทำให้จัดการเลือกตั้งไม่ทันภายในปี 2561 ว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเคยประกาศเอาไว้ระหว่างเยือนสหรัฐอเมริกาว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 แต่เรื่องการแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนนายกฯ เป็นฝ่ายบริหาร ดังนั้น เป็นคนละส่วนกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเวทีนานาชาติทวงถามเรื่องโรดแมป ในฐานะ รมว.ต่างประเทศจะชี้แจงอย่างไร นายดอน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครถาม แต่ถ้ามีการถามจะชี้แจงว่า ต้องแยกส่วนกัน เพราะนายกฯ เป็นฝ่ายบริหาร ส่วนเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของ สนช.ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แยกออกจากกันชัดเจน ที่สำคัญ นายกฯ เองไม่ได้เป็นสนช. และสนช. ไม่ได้มีคนเดียว อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถบอกได้ว่า เมื่อชี้แจงแล้วจะมั่นใจได้ว่า ต่างประเทศจะเข้าใจในกระบวนการของเราหรือไม่ เพราะเขาตั้งคำถามได้เสมอ แต่เรามีหน้าที่อธิบาย โดยพื้นฐานแล้วเขาคงต้องฟังบ้าง โดยดูจากพัฒนาการต่างๆ ภายในประเทศนั้นๆ ว่า มีสิ่งที่เป็นบวกต่อประชาชนมากน้อยแค่ไหน ถ้าโดยรวมแล้วประชาชนได้ประโยชน์ และตราบใดที่ไม่มีเลือดตกยางออก จะไม่เป็นเหตุให้ประเทศอื่นๆ นำเอามาเป็นประเด็น
เมื่อถามว่า สหภาพยุโรป (อียู) เพิ่งจะมีมติฟื้นระดับความสัมพันธ์ทางการเมืองกับไทย ตรงนี้จะทำให้อียูเปลี่ยนท่าทีหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า ต้องรอดูว่าเขามองมุมไหน ถ้ามองว่าไม่ได้เป็นการเปลี่ยนของฝ่ายบริหาร ไม่ได้เป็นการดำเนินการของนายกฯ หรือผู้ที่ติดต่อกับเขา แต่มาจากฝ่ายนิติบัญญัติ ที่เป็นอีกส่วนหนึ่ง น่าจะเข้าใจ เพราะทางอียูเองก็มีรัฐสภาเหมือนกัน เขาจะรู้ว่า วิธีปฏิบัติจริงๆ มันทำได้แค่ไหนในแง่ของการมีอิทธิพล

เมื่อถามอีกว่า สหรัฐฯ จะมองว่า นายกฯ ผิดคำพูดหรือไม่ เพราะไปประกาศกับเขาเอาไว้แล้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนคิดว่า เขาไม่ถือว่าเราผิดคำพูด ถ้าเขาแยกแยะได้ เพราะนายกฯ พยายามขับเคลื่อนและผลักดันให้เป็นไปตามโรดแมปที่จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน