เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตรวจสอบนาฬิกาและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ว่า การตรวจสอบการมีอยู่จริงของทรัพย์สิน หรือความเป็นเจ้าของนาฬิกานั้น เป็นการเบี่ยงประเด็น เพราะตามมาตรา 103 ของ พ.ร.ป.ป.ป.ช. บัญญัติว่าการกระทำที่ต้องห้ามคือ ห้ามมิให้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่น ยกเว้น 1.มีกฎหมายอนุญาตให้รับได้หรือ 2.ธรรมจรรยา การแจ้งว่าตนเองไม่มี แต่มีเพื่อนเอามาให้ใส่ ไม่ได้ซื้อมาฝาก ใส่แล้วก็คืนนั้น ตนคิดว่าเข้าข่ายรับประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่น ซึ่งเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามมาตรา 103 เพราะเจ้าหน้าที่รัฐได้ใส่หรือครอบครองชั่วคราวนาฬิกาหรู ไม่ใช่กระดาษทิชชูอย่างฟรีๆ โดยไม่ต้องควักเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน ซื้อเพื่อครอบครองเอง พูดง่ายๆว่าใส่ฟรี สบายใจ เงินอยู่ครบ แม้จะปฏิเสธการเป็นเจ้าของทรัพย์ก็อยู่ในความหมายของคำว่ารับประโยชน์อื่นใดนั่นเอง

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ป.ป.ช.ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบหรือยังว่าการวนกันใส่นั้น เข้าข่ายมาตรา 103 หรือไม่ ข้ออ้างที่ว่ายืมกัน วนๆกันใส่ คือการรับประโยชน์อื่นใดหรือไม่ เพราะกฎหมายห้ามอย่างชัดเจน ประโยชน์ที่ได้คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ต้องเอาเงินไปซื้อนาฬิกาที่อยากใส่ ก็มีคนเอามาให้ แบบนี้คือการรับประโยชน์อื่นใดหรือไม่ ถ้าไม่ต่อไปรัฐมนตรีคนอื่นจะยืมรถ ยืมบ้าน ยืมเรือบินบ้างได้ไหม ทั้งนี้ ความผิดตามมาตรา 103 ให้มีโทษจำคุก 3 ปี และให้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อถอดถอน และดำเนินคดีอาญาด้วย เลขาธิการป.ป.ช.ได้ดำเนินการอะไรบ้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน