เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจว่าในปี 61 นี้ เป็นปีที่รัฐบาลลงไปสู่ฐานราก เพื่อช่วยประชาชนทั่วประเทศ โดยโครงการสวัสดิการแห่งรัฐนั้นจะเป็นตัวชี้ว่าประชาชนคนไหนคือคนที่มีรายได้น้อยตามที่มีรายชื่อระบุมาแล้ว 11.4 ล้านคน ที่กระจายตัวอยู่ตามจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้ทางรัฐ มีรายชื่อแล้วว่าในพื้นที่ของจังหวัดใดที่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พยายามเวียนไปตามจังหวัดเรานั้น โดยล่าสุดคือจังหวัดแม่ฮ่องสอน และในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะไปจังหวัดตราด ซึ่งเมื่อลงพื้นที่แล้วจะทำให้เห็นว่าในพื้นที่ยังมีล็อค มีปัญหา ที่เป็นอุปสรรคและต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งภาครัฐจะต้องหาศักยภาพเข้าไปพัฒนา คือการปลดล็อคและสร้างศักยภาพ ตัวอย่างล่าสุดที่แม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นจังหวัดที่มีปัญหาเรื่องชาวบ้านรุกที่ป่า รัฐบาลก็ต้องแก้ไขให้คนอยู่กับป่าให้ได้ โดยนายกรัฐมนตรีก็ได้ไปช่วยเหลือให้สิทธิให้อยู่กับป่าได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย

อย่างไรก็ตามต่อไปนี้งบประมาณที่รัฐบาลให้ลงไปยังพื้นที่ต่างๆก็สามารถสร้างถนน ไฟฟ้า ประปา ให้ได้ทั่วทุกพื้นที่ เนื่องจากในอดีตจะต้องมีการคืนงบประมาณปีละถึง 300 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรีจึงมีไอเดียว่าจะต้องทำให้ทั่วทุกจังหวัดโดยอาศัยคณะกรรมการระดับประเทศ จังหวัด ตำบล เข้าไปขับเคลื่อนกับประชาชน โดยให้แต่ละจังหวัดต้องหามาว่า ปัญหาและอุปสรรคสำคัญของตัวเองคืออะไร เช่น ที่จังหวัดกาฬสินธุ์มี 18 อำเภอ มีเขื่อนใหญ่คือเขื่อนลำปาว 4 อำเภอที่อยู่ใต้เขื่อนมีน้ำใช้พอเพียง แต่ 14 อำเภอไม่มีน้ำ ดังนั้นการแก้ไขคือเรื่องการชลประทาน โดยกระทรวงพลังงานจึงมีโครงการตั้งแนวตามบ่อน้ำบาดาล ให้มีการดูดน้ำขึ้นและมีระบบไหลกลับ โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้พื้นที่ 14 อำเภอนั้นมีความชุ่มชื้นมากขึ้นสามารถทำการเกษตรได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

ดังนั้นเมื่อมีคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาแล้วแต่ละจังหวัดจะต้องไปหาดูว่าจังหวัดของตัวเองจะต้องปลดล็อคอะไรบ้าง และหาศักยภาพคืออะไรเพื่อให้รัฐบาลส่งทีมงานลงไป ให้ถึงระดับตำบลและหมู่บ้านเพื่อช่วยยกระดับขึ้นเพื่อให้เกิดรายได้ เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ที่สอดคล้องกับโครงการประชารัฐเพราะทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลประชาชน เอกชน มหาวิทยาลัย ประชาสังคม จะเข้ามาทำงานร่วมกันโดยจะมีคณะทำงานระดับพื้นที่ทั่วประเทศมาถึง7,463ทีม โดยต้องการคนในพื้นที่เพราะจะรู้ปัญหาของตัวเองดี ส่วนคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมานี้เป็นกรรมการที่คอยวางกรอบ ส่วนกรรมการที่จะตอบโจทย์ได้ดีคือระดับจังหวัด ระดับตำบล ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มคนในชุมชนนั้นเองจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเพราะทุกคนต้องการเห็นชุมชนที่ยังยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน