“ธีรัจชัย” ชี้ หากศาลรธน. ให้ “บิ๊กตู่” พ้นตำแหน่ง แนะ ใช้มารยาทผู้นำ ถอยให้คนอื่นขึ้นแทน ฉะ พปชร. ดัน “บิ๊กป้อม” ก็ไม่พ้นเครือข่ายเดิม

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2565 นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ตามกฎหมายแล้วพล.อ.ประยุทธ์ สามารถรักษาการต่อได้หรือไม่ ว่า เรื่องการรักษาการต่อหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องตีความ โดยหลักแล้วหากเป็นการพ้นจากตำแหน่งในกรณีอื่น การรักษาการไม่เป็นไร แต่กรณีนี้คือพล.อ.ประยุทธ์ เกิดจากการขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกฯ เกิน 8 ปี

นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า การตีความจะให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ เป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่าตีความเข้าข้างพล.อ.ประยุทธ์เกินไปหรือไม่ ทั้งนี้ อยู่ที่ศาลจะตีความ แต่หากศาลวินิจฉัยว่าให้พ้นจากตำแหน่งจริง พล.อ.ประยุทธ์ คงรู้ตัวเอง และใช้มารยาททางการเมืองของผู้นำถอยตัวเองออกไป ให้ท่านอื่นขึ้นมารักษาการแทนจะเหมาะสมกว่า

“หากพล.อ.ประยุทธ์ จะทำต่อไม่ฟังใคร แล้วเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง โดยองค์ประกอบผู้ที่จะตีความส่วนใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะกฤษฎีกาอื่นๆ ล้วนมาจากเครือข่ายของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะทำให้กระบวนการกลไกของประเทศยึดโยงกับคณะรัฐประหาร ที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้ามากเกินไปหรือไม่ ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้โปรดพิจารณาตัวเองด้วย” นายธีรัจชัย กล่าว

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่พรรคพลังประชารัฐ เตรียมรับมือในกรณีพล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่ง จะดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคแทน นายธีรัจชัย กล่าวว่า อยู่ในเครือข่ายเดิม เป็นลูกพี่ของพล.อ.ประยุทธ์ ถึงแม้พี่น้อง 3 ป. จะเห็นต่างหรือแตกแยกกันในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่พ้นอำนาจเครือข่ายรัฐประหารเดิม อำนาจยังไม่อยู่กับประชาชนเหมือนเดิม ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์เท่าไหร่

เมื่อถามกรณีพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มบาดหมางกัน ในอนาคตมีโอกาสที่จะยุบสภาเกิดขึ้นได้หรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวว่า เกิดได้เสมอในช่วง 6 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพราะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงแรกๆ อาจจะเกรงใจ เพราะกลัวจะถูกตัดออกจากพรรคร่วม แต่เมื่อเหลือ 6 เดือนสุดท้าย แต่ละพรรคการเมืองก็ย่อมที่จะเป็นตัวของตัวเอง เพื่อให้ประชาชนเชื่อว่าไม่ได้อยู่ฝ่ายรัฐประหาร ทั้งที่อยู่มา 3 ปีแล้ว และเพื่อแสดงว่ามีนโยบายหรือผลงานอะไร เพื่อจะให้ประชาชนเลือกต่อไปได้เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีอะไรที่แปลก

นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การเมืองที่ควรจะเป็น คือแบบพรรคก้าวไกล เรายืนยันชัดเจนว่าไม่เอาโครงสร้างแบบรัฐประหาร เราจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้างประเทศไปสู่ประชาธิปไตย ที่มีอำนาจมาจากประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ให้ ส.ว. 250 คน เลือกนายกฯ

“การเลือกตั้งครั้งที่จะถึง ผมเชื่อว่าประชาชนน่าจะมองเห็นอะไรชัดว่า อำนาจจากประชาชนที่บอกว่า เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน ก็เป็นเพื่ออำนาจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้เพื่ออำนาจประชาชนเลย” นายธีรัจชัย กล่าว








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน