เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ก.พ.ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่ง ว่า ในการพบกันระหว่างประธานเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ต้นก็ได้ระบุว่าขอเวลาให้เราอีกหน่อยหนึ่งในการจัดทำกฎหมายซึ่งเขาก็เข้าใจ

“ผมก็ได้บอกว่าเราเองก็เหมือนกับประเทศสหรัฐฯ ที่ประธานาธิปดีกล่าวคำว่าอเมริกันเฟิร์ส ผมก็ต้องมีคำว่าไทยแลนด์เฟิร์สเหมือนกัน โดยจะต้องดูแลคนของเราด้วย ดูแลผลประโยชน์ของประเทศวันนี้เรา วันนี้เราเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศในนโยบายที่เรียกว่าไทยนิยมที่ไม่ใช่เป็นการเอาเงินไปหว่าน หลายคนบิดเบือน วิจารณ์ว่ามีการใช้งบประมาณหลายล้านบาท และในขั้นที่สองของผู้ที่ถือบัตรผู้มีรายได้น้อย จะต้องมีการฝึกอาชีพโดยมีค่าอาหารให้ 50 บาท โดยระหว่างที่มาเราก็เลี้ยงข้าวเขา 1 มื้อ บางคนไปวิจารณ์ว่ารัฐบาลคิดอะไรไม่ออกจึงเอางบประมาณมาใช้จ่ายกันง่ายง่าย ๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการทุจริต แต่ถามว่าถ้าเอางบประมาณหวานลงไปไม่ทั่วถึงคนทุกกลุ่มทุกพวก ไม่มีการพัฒนาขีดความสามารถตรงนี้ใช่หรือไม่ หลายคนบอกว่าประชาชนไม่สนใจแต่ก็อยู่ที่ความอยากพัฒนาตัวเอง ขอให้สื่อเข้าใจว่าเราไม่ได้คิดแต่เพียงว่าจะต้องใช้ว่าจะต้องใช้เงินแต่เริ่มจากคิดว่าจะหาเงินมาจากที่ใดจะใช้เงินอย่างไร เช่นโครงการไทยนิยม ที่จะประชุมเปิดงานในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ได้คิดมาแล้วหลายเดือน พร้อมกับเตรียมชุดทำงานเพื่อลงไปสอบถามความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้หลายคนชื่นชมประเทศมหาอำนาจที่สามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ อย่างจีนซึ่งตนดูเป็นต้นแบบโดยจีนใช้ข้าราชการกว่า 2 ล้านคน สอบถามประชาชนถึงความต้องการเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ไม่ใช่หว่านโดยรวมและไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการหารือกับประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ ไม่ได้มีการสอบถามหรือกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งของประเทศไทย เพียงแต่ให้กำลังใจในการเดินหน้าเข้าสู่ประชาธิปไตยโดยตนได้ยืนยันว่าจะเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย ทั้งนี้สหรัฐอย่างเข้าใจถึงความจำเป็นของไทยในวันนี้ โดยสหรัฐได้ให้กำลังใจและขอให้ดำเนินการสำเร็จตามที่วางไว้นอกจากนี้ตนอย่างได้บอกกับเขาว่าประเทศไทยเองก็มีปัญหาของประเทศไทย

“สื่อรู้หรือไม่ว่าประเทศไทยต่างจากสหรัฐอเมริกาอย่างไร ต่างกันทั้งเรื่องของพื้นฐานทางสังคม การศึกษา อาชีพและรายได้ ดังนั้นเราจึงต้องมีวิธีการที่จะนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งมีอยู่สองอย่างคือ 1.ตนกำหนด 2.กฎหมายกำหนด” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน