‘จุรินทร์’ มั่นใจปักธง กทม.ได้แน่ ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ อุบเลือกข้าง ‘ประยุทธ์’ หรือ ‘ประวิตร’ ชี้นายกฯ เปิดตัวเข้ารทสช.จะไม่ใช่คนกลางอีกต่อไป

วันที่ 8 ม.ค. 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ชุมชนตลาดเก่าวัดพยาไกร กรุงเทพมหานคร ว่า พื้นที่นี้ถือเป็นพื้นที่เป้าหมายของเรา พรรคได้ส่งนายอภิมุข ฉันทวานิช ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคนที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และมีสัมพันธ์กับพี่น้องในพื้นที่เป็นอย่างดี ที่นี่เรามั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะปักธงได้ ซึ่งกรุงเทพฯ จะเป็นเป้าหมายอีกพื้นที่หนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ เราเพิ่งเสียที่นั่งไปคราวที่แล้ว แต่อย่างน้อยชาวกรุงเทพฯ ต้องเลือกผู้แทนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาจำนวนหนึ่ง คราวที่แล้วมันอาจเป็นอุบัติเหตุทางการเมือง แต่เที่ยวนี้มั่นใจว่าปักธงได้แน่

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนในภาคอีสานพรรคได้เคาะไปอีก 90 เขต เราจะส่งครบ 400 เขตทั่วประเทศ แต่ตอนนี้ต้องรอการแบ่งเขตให้ชัดเจนจากทาง กกต.ก่อน นโยบายหลักของเราเน้น “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” แต่มีสิ่งที่ตนเป็นห่วงเรื่องทุจริตคอรัปชัน คิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือช่วยกัน ต้องไม่สนับสนุนธนกิจทางการเมือง หรือธุรกิจการเมือง เพราะจะเป็นต้นตอของการถอนทุนคืนแล้วเกิดเป็นการทุจริต

“ใครขายตัว ใครลงทุนด้วยการซื้อตัว ดูดผู้แทนหัวหนึ่งราคามหาศาลอันนั้นก็อาจคะเนได้ว่าสุดท้ายก็ไปจบด้วยการถอนทุนคืน คือการทุจริตคอรัปชันต่อไป ถือเป็นภัยร้ายของประเทศและประชาธิปไตย” นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า คนที่เป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องพร้อมที่จะเป็นนายกฯ ทุกคน ไม่เช่นนั้นสมาชิกพรรคคงไม่เลือก ส่วนการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ พรรคนั้น คงเริ่มหนึ่งจากการเปิดนโยบายพรรคก่อน

เมื่อถามว่าการเมืองถ้าต้องเลือก 2 นายพล 2 พรรคในขณะนี้ ทั้งพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติจะเลือกอยู่ฝั่งไหน นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลักมันชัดอยู่แล้วว่าให้ประชาชนให้คำตอบก่อน เพราะเราเป็นระบอบประชาธิปไตยในรัฐสภา ซึ่งหลักคือใครรวมเสียงข้างมากได้คนนั้นก็เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ตามหลักใครจะรวมเสียงข้างมากได้ก็อยู่ที่ว่าใครได้เท่าไร ฉะนั้นต้องรอผลการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมจะเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติพรุ่งนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็น แต่ถ้าท่านไปสมัครสมาชิกในพรรคหนึ่งจริง ก็แสดงว่าต่อไปนี้ท่านสังกัดพรรคการเมืองที่มีความชัดเจนแล้วไม่ใช่เป็นแค่คนกลางๆ และจะมีสถานภาพเหมือนกับรัฐมนตรีหลายท่านที่เป็นสมาชิกหรือกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามย้ำว่าความเป็นกลางของนายกฯ หายไป จะกระทบกับเสถียรภาพทำให้สภายุบหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนตอบล่วงหน้าไม่ได้ ต้องอยู่ที่นายกฯ ด้วยว่าจะจัดการกับรัฐบาลผสมในรูปแบบไหนอย่างไร








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน