อนุทิน นำทีมลงพื้นที่กทม. ลั่นหาเสียงไม่เรียกหาความขัดแย้ง ไม่ด้อยค่าพรรคอื่น ชูพัฒนาชุมชนแออัด ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชุมชนสะและน้อย ซอยอ่อนนุช 54 เขตสวนหลวง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะผู้บริหารพรรค ประกอบไปด้วย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะที่ปรึกษาพรรค น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีมกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายมณฑล โพธิ์คาย ผู้สมัครส.ส. เขตสวนหลวง – ประเวศ ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน และนำเสนอนโยบายของพรรค โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น มีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัย 2,000 คน
นายอนุทิน กล่าวว่า การลงพื้นที่ในกทม. ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จำเป็นต้องมีบุคลากรที่เข้าใจลึกซึ้งถึงพื้นที่ เข้าใจคนในพื้นที่ ถ้าไม่รู้จัก ไม่มีคนรู้ ไม่มีความรู้ รับรองว่าทำงานลำบาก เพราะปัญหาของกทม.มีความสลับซับซ้อน อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคภูมิใจไทย เราไม่คิดว่าเหนือบ่ากว่าแรง เราเริ่มต้นจากพรรคอีสาน ต่อมาเราเข้ามาดูแลคนทั้งประเทศ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาให้คนไทย ทุกภาค แล้วทำไมเราจะทำงานให้คนกทม.ไม่ได้ เรามีความมั่นใจ จากความตั้งใจ จากฝีมือของเรา ปัญหาหลายอย่างเราเจอในต่างจังหวัด แล้วมาพบอีกครั้งในกทม. เราคิดว่าเราผ่านมาแล้ว แก้ให้ท่านได้แน่นอน แต่จะต้องมีผู้แทนของพรรคก่อน เราจึงลงมาขอโอกาสให้เราได้เข้าไปทำงาน โดยเฉพาะกับนายมณฑล ที่มีประสบการณ์เป็นส.ส.มาแล้ว ถ้าได้กลับไปทำงาน ก็ถือว่าได้สานต่อสิ่งที่ได้ทำไว้ เป็นความต่อเนื่องในการทำงานเพื่อประชาชน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ผู้สมัครทุกคนเราเลือกเอาคนที่ทำงานจริง คนที่มีหัวใจ ต้องการอาสาทำงานให้ประชาชน ซึ่งพรรคมีการประเมินผลงานของผู้สมัคร เพราะเราต้องการเห็นความตั้งใจของคนที่เราเลือกด้วย เมื่อคนพวกนี้ได้เข้าไปทำงาน มั่นใจได้ว่าจะเป็นการต่อยอดในสิ่งที่เขาทำไว้ตอนลงพื้นที่ เขาทำงานต่อได้เลย เลือกตั้งปี 62 พรรคภูมิใจไทย มีผู้แทนใหม่ในหลายพื้นที่ แล้วเราก็ทำงานให้ประชาชน เราสร้างอะไรใหม่ๆมากมาย ในพื้นที่ที่เราเข้าไปทำงาน อาทิ สะพาน เชื่อมพัทลุง-สงขลา และสะพานข้ามเกาะลันตา จ.กระบี่
จากนั้นนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการยุบสภา ที่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วนี้ว่า พรรคภูมิใจไทย ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด ลงพื้นที่ต่อเนื่อง เข้าหาประชาชน เรื่องยุบสภา เราทราบอยู่แล้วเลือกตั้งต้นเดือนพฤษภาคม แต่จะวันไหน ก็สุดแล้วแต่ เพราะอำนาจการยุบสภาเป็นของนายกฯ เราก็ไม่ก้าวล่วงกดดัน คิดอย่างเดียว ทำงานให้มีผลงาน จัดเวลาไปพบปะประชาชน ขอยืนยันว่าหลักก็จะไม่ไปทะเลาะกับพรรคไหน ขึ้นเวทีไหนก็จะไม่พูดต่อว่าหรือด้อยค่าพรรคอื่น เพราะทุกพรรคก็ทำเพื่อประชาชน แต่วิธีการคือทำเพื่อความสงบของบ้านเมืองและเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะนำพาประเทศไปข้างหน้า
“หากไปจังหวัดไหนและไปด่าพรรคอื่น เปรียบเสมือนเราเข้าบ้านใครแล้วไปนั่งด่าคนในบ้านเขาคงไม่ให้ดอกไม้หรอก” นายอนุทิน กล่าว