‘ธนาธร’ ชม ‘ปกรณ์วุฒิ’ อภิปราย จนสอย ‘ศักดิ์สยาม’ ได้ ชี้กลไกกฎหมายอาจหยุดได้ชั่วคราว แต่ประชาชนจะหยุดได้ตลอดไป แนะชะลอโครงการรัฐ
วันที่ 3 มี.ค.2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเพจ Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ถูก ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม กรณีถือหุ้นบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยให้ยื่นคำชี้แจงต่อศาลใน 15 วัน ความว่า กลไกกฎหมายอาจหยุดคุณศักดิ์สยามได้ชั่วคราว แต่คนที่จะหยุดได้ตลอดไปคือประชาชน
เมื่อเช้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
กรณีนี้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นจากการอภิปรายเปิดโปงโดย ส.ส.พรรคก้าวไกล คุณ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล – Pakornwut Udompipatskul ที่ได้ชี้ให้เห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนกรกฎาคม 2565 ว่า คุณศักดิ์สยาม ยังคงเป็นเจ้าของ หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ในหลายโครงการในจังหวัดบุรีรัมย์
โดยมีการโอนหุ้นธุรกิจรับเหมาให้คนใกล้ชิดก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นการทำนิติกรรมอำพรางหรือไม่ ก่อนที่คุณปกรณ์วุฒิและ ส.ส.พรรคก้าวไกล จะได้รวบรวมชื่อส่งให้ประธานสภายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จนเป็นคำสั่งออกมาในวันนี้
แม้จะเป็นเพียงการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และกว่าที่จะมีคำวินิจฉัยออกมาก็เป็นเวลาที่คณะรัฐมนตรีชุดนี้หมดวาระลงไปแล้ว แต่ก็เป็นกรณีที่ทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราพูดถึงมาโดยตลอดนั้นเป็นเรื่องที่มีมูลจริงๆ ที่ว่าพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลบางพรรค ได้ใช้อำนาจทางการเมืองอย่างบิดผันให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเป็นจำนวนมหาศาล
ในฐานะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คือผู้ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เราคงไม่อาจไว้ใจให้โครงการต่างๆ เดินหน้าต่อ โครงการทั้งหลายที่เกิดขึ้นภายใต้คุณศักดิ์สยาม ควรถูกชะลอออกไปก่อน และนำไปสู่การทบทวน เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งบประมาณที่เกี่ยวพันกับคนจำนวนมากในประเทศนี้ จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้ใคร
ผมขอชื่นชมคุณปกรณ์วุฒิ และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ทุกคนที่ได้ร่วมกันตรวจสอบกรณีเหล่านี้ นำมาให้ประชาชนได้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจสำหรับทุกคนที่ร่วมขับเคลื่อนเรื่องนี้กันมา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น คือในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น กลุ่มทุนที่ได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้และพรรคการเมืองบางพรรค ก็จะยังคงร้อยรัดผลประโยชน์เดินเคียงคู่กันไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่ และจะยังคงเป็นกลุ่มการเมืองสำคัญที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของผู้ที่มาจากการรัฐประหารต่อไป
การตัดสินใจอยู่ในมือของพวกเราทุกคน ว่าจะยังคงปล่อยให้กลุ่มการเมืองนี้เดินหน้าสานต่อโครงการเอาผลประโยชน์ของประชาชนมาเป็นผลประโยชน์ของตัวเองต่อไปหรือไม่
กลไกตามกฎหมายอาจจับความผิดปกติ สั่งพวกเขาหยุดการปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นการชั่วครั้งชั่วคราวไม่ยั่งยืน แต่สุดท้ายคนที่จะหยุดการเข้ามาของพวกเขาได้ดีที่สุด ก็คือประชาชนครับ
