เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภาสนิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. สนช.มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำกฎหมายให้ดีที่สุด เพราะร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ส่วนที่มีการมองว่าสนช.มีความพยายามที่จะคว่ำกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับนั้น ยืนยันว่าไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น และหากจะทำก็คงทำไปก่อนหน้านี้แล้วที่ใช้เสียงเพียงแค่เกินกึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าจะมีการคว่ำในชั้นนี้ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 คือ 166 เสียงจาก 248 เสียง ซึ่งถือว่ายากมาก อีกทั้งในประเด็นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ก็ไม่ได้มีประเด็นใดที่จะตกลงกันไม่ได้ ส่วนในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ว. มีประเด็นเดียวคือการเปลี่ยนวิธีการได้มาของส.ว. ซึ่งกสามารถไปพูดคุยเจรจากันได้ ไม่มีอะไรที่ต้องมาคว่ำ

“สนช. คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ไม่ใช่ศัตรูกันที่จะไปรบไปคว่ำ ความเห็นต่างทางกฎหมายเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็จบ เพราะเราต้องการให้กฎหมายออกมาดีที่สุด ผมออกมาพูดในวันนี้ เพราะประเด็นนี้กำลังมีผลกระทบต่อความสงบสุขของบ้านเมือง จึงต้องออกมายืนยันว่าโรดแม็ปจะเป็นไปตามกฎหมายลูก ที่ผ่านมามีการคำนวณแล้วหลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้วันที่ 6 เม.ย.2560 การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นปลายปี 2561 ต่อมา สนช.มีการแก้ไขร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้พรรคการเมืองได้มีเวลาเตรียมตัว ทำให้โรดแม็ปขยายถึงเดือน ก.พ.2562 หรืออาจเกินไป 4-5 วัน ยืนยันว่าการแก้กฎหมายครั้งนี้ เพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ไม่เป็นปัญหา บ้านเมืองสงบสุข ไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง และไม่ทะเลาะกันก่อนหรือหลังเลือกตั้ง และหากมีการคว่ำกฎหมายลูกจริงถือเป็นความรับผิดชอบของสนช.”นายพรเพชร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน