วันที่ 16 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แถลงผลประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับลดพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดฯและให้นำมาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 มาบังคับใช้ในพื้นที่แทน ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เสนอ เนื่องจากการทำงานในพื้นที่ดังกล่าวผ่านการประเมินผลตามตัวชี้วัดตามแผนการและขั้นตอนตามโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และจังหวัดปัตตานี เว้นอำเภอแม่ลาน ออกไปอีก 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.- 19 มิ.ย.นี้ โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป
พล.อ.วัลลภ กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่ได้หารือหรือกำชับอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ล่าสุดมีทั้งก่อเหตุระเบิดบริเวณตลาดและโรงเรียน เนื่องจากแม่ทัพภาค4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กวดขันเพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตามในที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึงกรณีที่ตำรวจเข้าตรวจค้นและจับกุมลูกน้องนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำนปช.ปทุมธานี ที่ซุกซ่อนระเบิดไว้ในห้องพักภายในคอนโดเมืองทอง เพราะการหารือในวันนี้พูดคุยเฉพาะเรื่องภาคใต้
