‘ประยุทธ์’ สอนมวย รัฐบาล แจกอย่างเดียวไม่ได้ ฝากให้คิด แค่คนละพัน 50 ล้านคน ต้องใช้งบจำนวนมาก ทั้งยังทำให้เสียคนตั้งแต่เด็ก ยันไม่ใช่คนบ้าบ้าบอบอ

วันที่ 9 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวเปิดใจถึงการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตอนหนึ่งกล่าวว่า วันนี้บัตรสวัสดิการประชารัฐไม่ใช่รัฐสวัสดิการ เราต้องใช้วิธีการที่เหมาะสม บัตรสวัสดิการประชารัฐถ้าจะให้ทุกคน งบประมาณไปไม่ได้จึงต้องหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้เข้าถึงโอกาส และความเท่าเทียม แต่รัฐบาลได้สร้างโอกาสให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมเพื่อที่จะใช้ประโยชน์อย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมาได้ศึกษามามาก และนานแล้วเรื่องของดิจิทัล บล็อกเชน เรื่องเงินคริปโต เพื่อทำความเข้าใจเป็นพื้นฐาน

ส่วนรายละเอียดต้องปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจซึ่งรัฐบาลมีคนเก่งอยู่มาก ร่วมกันพิจารณาว่าจะสามารถทำได้จริงและได้ประโยชน์กับประชาชนหรือไม่เหมือนกับที่ต่างประเทศทำต้องดูถึงความพร้อมในด้านต่างๆการทำตามก็ต้องคอยดูด้วยบางประเทศก็ประสบความสำเร็จแต่บางประเทศก็ไม่ใช่อาจล้มเหลวบ้าง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเราจะต้องไม่ล้มเหลวเนื่องจากเรามีงบประมาณอยู่จำนวนจำกัด เพราะนี่คือความเสี่ยง หลายคนอยากจะได้เหมือนกับต่างประเทศ ซึ่งเราต้องปรับตัวให้พร้อมก่อน การทำงานตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็เพื่อเตรียมให้เกิดความพร้อมเตรียมประชาชนให้พร้อมรวมทั้งระบบโครงสร้างต่างๆ ที่ผ่านมาก็ได้ทยอยใช้มาแล้วโดยเฉพาะในเรื่องของกายภาพซึ่งไม่อยากจะคุยว่าเก่งกว่าหรือทำดีกว่า เพียงแต่วันนี้เราพร้อมที่จะทำให้มากขึ้นและดีขึ้นก็กลายเป็นประเด็นเพราะทุกคนแข่งขันกันทั้งหมด แต่จะบอกว่าตนไม่ได้ทำอะไรเลยมันไม่ใช่ บางอย่างอาจจะช้าแต่ก็เกิดขึ้นมาแล้วและมีอนาคตที่ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การเป็นผู้นำที่ดีจะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายและต้องเป็นผู้นำในการฝ่าฟันวิกฤติให้ได้ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าบางครั้งเข้ามาไม่ใช่เรื่องเดียว ที่ผ่านมาเราไม่ได้ประสบปัญหาแต่เฉพาะในเรื่องของ โควิด-19 เรื่องเดียวเรายังมีสถานการณ์ทางบ้านชายแดนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตนในฐานะผู้นำต้องกล้าตัดสินใจซึ่งก็มีประสบการณ์ส่วนตัวในการตัดสินใจเพราะเคยอยู่ในสนามการสู้รบมา ผ่านประสบการณ์มามากพอสมควรรู้ว่ามันน่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกอย่างต้องมีการประเมินสถานการณ์ในอนาคต

“ วันนี้อาจจะมีคนดีมากกว่าผมก็ได้ แต่ถามว่าได้มีการคิดในเรื่องการรับมือของปัญหา รวมทั้งเรื่องของอนาคต ถ้าวันนี้เราพูดกันแต่เพียงว่าจะให้ จะแจกอย่างเดียวไม่ได้ หลายคนอยากจะได้รับการช่วยเหลือแบบรวดเร็ว แต่รัฐบาลจะต้องพิจารณาถึงการช่วยเหลือว่าจะให้คนส่วนไหนก่อน ต้องให้คนที่เดือดร้อนมากที่สุด ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนต้องดูงบประมาณที่มีอยู่ด้วย จึงมีการทยอยการช่วยเหลือ

แต่หลายคนถามว่าทำไมเราไม่ให้ทั้งหมดซึ่งถ้าคำนวณเป็นตัวเลขแล้ว 50 ล้านคนคนแค่ให้คนละ 1,000 บาท ก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ถ้าไปแจกเงินก็จะทำให้เสียตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นจะคิดไม่ออก ถ้าได้เงินไปตอนนี้ ก็จะไปใช้จ่ายในสิ่งที่อยากจะได้หรืออยากจะใช้

เรื่องนี้ผมไม่ได้ว่าใครแต่เชื่อว่าเงินจะหมดลงทันที และก็จะเคยชินในวันข้างหน้าต้องได้มากกว่านี้ โดยลืมคิดว่าจะต้องพัฒนาตัวเองอย่างไร ถือเป็นอันตรายที่สุด เชื่อว่าทุกคนชอบใครให้อะไรมาลืมว่าจะทำให้ล่มสลายทั้งระบบแล้วจะเดินต่อไปอย่างไร ผมไม่ได้ไปว่าใคร สิ่งใดก็ตามถ้าทำแล้วดีปลอดภัยผมไม่ขัดข้อง แต่ต้องดูเรื่องของงบประมาณด้วยโดยเฉพาะ งบประมาณปี 2567 นั้น ทำไปแล้ว และกำลังทำอยู่ และทำต่อ หลายคนบอกว่าเดี๋ยวทำใหม่ ปรับใหม่ได้แสดงว่าไม่มีความรู้ในเรื่องการจัดทำงบประมาณ คนจะเป็นผู้นำหรือนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีจะต้องรู้และให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ให้มาก สำนักงบประมาณต้องตอบให้ได้ว่าเรามีเงินพอหรือเปล่ามีการใช้เงินถูกประเภทหรือไม่

ประเทศของเรามีหลายอย่างที่ต้องแก้ไข ซึ่งทำงานคนเดียวไม่ได้ 8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยบ่นแต่อยากจะบอกว่ามันยากที่จะทำให้คนทั้ง 70 ล้านคนเข้าใจผมและรัฐบาลยอมรับมันยาก ไปถามทุกคนได้ว่าผมเป็นคนอย่างไรผมฟังทุกคนและไม่ใช่คนบ้าบ้าบอบอไม่ใช่คนที่ใช้อำนาจทุบโต๊ะ หลายอย่างก็อยากจะทุบแต่ก็ทำไม่ได้ งานทุกงานคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องรู้เท่าที่ควรรู้ ไม่ใช่จะเป็นคนวิเศษวิโสหรือเก่งมาจากไหน ถ้าผมเป็นอย่างนั้นคงอยู่มาไม่ถึง 8 ปี ทุกคนมาจากการเลือกตั้งยืนยันว่าผมไม่เคยทะเลาะกันให้เกียรติกับทุกคนแต่ถ้าแยกกันไปแล้วเขาจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา”

 

……………………………

เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/ #โหวตอนาคต #โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์ #เลือกตั้ง66 #มติชนเลือกตั้ง66

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน