ยะลา ปชป. สร้างความเข้าใจกระบวนการสันติภาพสู่สันติสุขชายแดนใต้ ชูนโยบาย 3 ส. สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สู่ความยั่งยืน พร้อมผลักดันเที่ยวบินพาณิชย์สนามบินเบตง หากได้รับเลือก ส.ส.

3 พ.ค. 66 – ที่โรงแรมกาเดนส์วิว อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เครือข่ายการเมืองภาคประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดเวทีเสวนาหัวข้อ กระบวนการสันติภาพสู่สันติสุขชายแดนใต้ เมื่อ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา

โดยมี 3 ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายอรัญ วงศ์อนันต์ นายซารีฟุดดีน สารีมิง และ นางสาวซีนัท มะหะหมัด พร้อมด้วย นายณรงค์ ดูดิง ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตจังหวัดยะลา เขต 3

ร่วมกันแถลงข่าวและสร้างความเข้าใจในกระบวนการสร้างสันติภาพสู่สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้ร่วมเสวนาทั้งสิ้นกว่า 100 คน จากพื้นที่ อ.เบตง อ.ธารโต อ.บันนังสตา และ อ.กรงปีนัง จ.ยะลา

นายอรัญ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายในมิติการพัฒนา เพื่อสร้างอาชีพ-สร้างรายได้ เพื่อให้คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมาโดยตลอด ทั้งผ่านทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)

เช่น โครงการความมั่นคงทางอาหาร เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ผลิตอาหารในการเป็น “ครัวโลก” โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารที่เป็น “ฮาลาล” และการส่งเริมการเลี้ยงโคเนื้อ เลี้ยงแพะแบบครบวงจร

ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ เพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งการพัฒนาในโครงการอื่นๆ ที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายเติมเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากที่เกิดวิกฤตโควิดมา 3 ปี สิ่งที่ประชาธิปัตย์ประกาศ ชูนโยบาย 3 ส. ได้แก่ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ

โดยการสร้างเงินนั่น คือ การที่ ประชาธิปัตย์จะอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านบาท เข้าระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยอัดฉีดเงินเข้าในหมู่บ้านและชุมชนละ 2 ล้านบาท

ตามด้วยนโยบายประกันรายได้ให้เกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด ถ้าไม่มีนโยบายประกันรายได้ ถ้าราคายางลงมาเหลือ 30 บาท เกษตรกรจะได้เพียง 30 บาทเท่านั้น แต่ถ้ามีการประกันรายได้ เวลาน้ำยางเหลือ 30 บาท พี่น้องจะได้ส่วนต่างอีก 27 บาท รวมเป็น 57 บาท นี่คือการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ

ด้าน นายซารีฟุดดีน กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ประชาธิปัตย์ประกาศชัดเจนเลยว่า วันนี้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถึงเวลาที่จะต้องทำสันติภาพให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อนำไปสู่สันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้

คำว่า สันติภาพนั่นคือว่า บัดนี้เราต้องเลิกราฆ่าฟันกัน เหตุการณ์ที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิต มั่นใจว่า การพูดคุยกับกลุ่มคนที่เห็นต่างมีความจำเป็น ไม่มีสงครามที่ไหนจะเอาชนะกันด้วยสงครามอาวุธ นอกจากการพูดคุยการเจรจากัน นี่คือหนทางสู่สันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วเราจึงมาแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างนั่นคือ แก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ ประชาธิปัตย์คิดเรื่องนี้มาอย่างเป็นระบบ

น.ส.ซีนัท กล่าวว่า ตนเป็น 1 ใน ทีมการศึกษาทันสมัย โดยมี “ดร.เอ้” นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าทีมการศึกษาทันสมัย จะทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ของพรรค เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ขับเคลื่อนการทำกิจกรรมในเรื่องการศึกษาทันสมัยต่อไป และเพื่อที่จะได้เข้ามาร่วมกับพรรคในการสร้างคนเก่ง คนดี และคนรุ่นใหม่ที่สนองต่อความต้องการของโลกยุคใหม่ ให้กับประเทศต่อไป

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ความสนใจมากในเรื่องการกระจายอำนาจทางการศึกษา ไม่กระจุกความเจริญ กระจายโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในเรื่องการศึกษาแก่คนรุ่นใหม่ ตั้งแต่เกิดอยู่ในวงการศึกษา หลังจากที่จบการศึกษา ทำงานแล้ว ไปจนถึงตลอดชีพ

ส่วน นายณรงค์ ในฐานะคนในพื้นที่ มองว่า วันนี้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงเวลาต้องพูดคุยกับทุกฝ่าย ที่มีความเห็นต่างกัน จะทำอย่างไร ซึ่งประชาธิปัตย์กำลังทำอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นถ้าเราสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ใช้กำลังอาวุธกันได้ ก็จะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นได้ และก่อให้เกิดสันติสุขตามมา ซึ่งก็จะทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางด้านอาหาร นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะทำ

ส่วนเรื่อง สนามบินเบตง ที่ยังคงไร้เที่ยวบินพาณิชย์ แต่ยังเปิดบริการปกติ รองรับเครื่องบินส่วนบุคคล-ราชการ เท่านั้น ขณะนี้ นาย ณรงค์ กล่าวว่า หากตนได้รับเลือก เป็น ส.ส. จะผลักดันนำเสนอประเด็นปัญหาดังกล่าว เข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตั้งกรรมการธิการหารือกับกรมท่าอากาศยาน และตัวแทนสายการบินให้กลับมามีเที่ยวบินพาณิชย์อีกครั้ง ในราคาที่ย่อมเยา เพื่อส่งเสริมให้เมืองเบตงให้เป็นเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้

สุดท้ายนี้ขอโอกาสในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากชาวยะลา เขต 3 ให้เลือกผู้สมัคร และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคน ทั้งพรรค ทั้งบัตร 2 ใบ ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะยกยะลาทั้ง 3 เขตการเลือกตั้ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายนำสันติสุข กลับคืนสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน