สกลธี นำทัพ พปชร.ปราศรัย ลานคนเมือง มั่นใจ ทำให้ กทม. ดีกว่านี้ พณิชย์ กราบขอบคุณพ่อแม่ และแผ่นดิน ขอโอกาสนี้ทำงานเพื่อประเทศชาติ

วันที่ 4 พ.ค. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยย่อย โซนกรุงเทพกลางและตะวันออก นำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และหัวหน้าทีมผู้สมัคร กทม. นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าทีมผู้สมัคร กทม. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายพรรค พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 11 ดร.สฤษดิ์ ไพรทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 11 พณิชย์ วิทยาภัทร์ เขตเลือกตั้งที่ 5 เบอร์ 4 กานต์ กิตติอำพน ขึ้นปราศรัย

เขตเลือกตั้งที่ 13 เบอร์ 8 ดร.ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 14 เบอร์ 5 นฤมล รัตนาภิบาล เขตเลือกตั้งที่ 15 เบอร์ 8 ณิรินทร์ เงินยวง เขตเลือกตั้งที่ 16 เบอร์ 12 กิติภูมิ นีละไพจิตร์ เขตเลือกตั้งที่ 17 เบอร์ 10 ศิริพงษ์ รัสมี เขตเลือกตั้งที่ 18 เบอร์ 4 พีระพงษ์ รัสมี เขตเลือกตั้งที่ 19 เบอร์ 10 นาถยา แดงบุหงา ขึ้นปราศรัย เขตเลือกตั้งที่ 20 เบอร์ 1 บุญรุ่ง เต๋งจงดี

นางนฤมล กล่าวว่า เวทีครั้งนี้ได้รวมเอาผู้สมัครของ 10 เขต มาพบกับพี่น้องประชาชน และยืนยันถึงนโยบายที่จะลดค่าครองชีพ ให้กับพี่น้องประชาชน คน กทม. รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งในวันนี้ได้มีการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของพรรค และได้พูดถึงนโยบายเศรษฐกิจของ กทม. เป็นสิ่งที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้ทำไว้ โดยเฉพาะโครงการบ้านมั่นคง ที่ทำไว้เป็นต้นแบบ ทั้งที่คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร เพื่อให้พี่น้องประชาชนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

โดยผู้สมัครได้เสนอให้พรรคทำนโยบายให้ทุกชุมชน เพื่อที่จะได้มีบ้านเป็นของตนเอง ในโครงการบ้านประชารัฐ ซึ่งการทำโครงการนี้ไม่มีการใช้งบประมาณของรัฐ เนื่องจากมีความซ้ำซ้อนของพื้นที่ เพราะที่ดินบางแห่งเป็นที่ราชพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือเป็นของเอกชน ดังนั้นการดำเนินโครงการนี้ จะให้เอกชน เป็นผู้ลงทุนดำเนินโครงการ ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ โดยมีราคาไม่เกิน 500,000 บาท และมีสถาบันการเงินเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเปลี่ยนเงินค่าเช่าบ้านเป็นเงินผ่อนได้บ้าน ทำให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น

นางนฤมล กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีนโยบายการเสริมทักษะ อาชีพและเพิ่มช่องทางการค้าผ่านมือถือให้กับพี่น้องประชาชนมีช่องทางการค้าขายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญของ พปชร. เช่นเดียวกับการทำนโยบายบัตรสวัสดิการประชารัฐ จากเดิมที่ผู้ถือบัตรจะได้รับเงินอยู่ที่ 300 บาท ซึ่งพรรคจะเพิ่มให้เป็น 700 บาท และยังมีการประกันชีวิตอีก 200,000 บาท ดังนั้นขอฝากพี่น้องเลือก พลเอก ประวิตร เบอร์ 37 ในบัตรสีเขียว ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และขอฝากผู้สมัครทั้ง 10 คนที่ขึ้นเวทีในวันนี้ด้วย

ทั้งนี้ ผู้สมัคร กทม. ได้สลับขึ้นเวทีเพื่อปราศรัย นำเสนอนโยบายในการดูแลพื้นที่ กทม. ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และมีเป้าหมายที่จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ของตนเอง ในแบบที่สอดรับกับปัญหา และความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง

นายพณิชย์ วิทยาภัทร์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 11 กล่าวว่า ไม่เคยทิ้งพื้นที่มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลักดันนโยบาย 7 ป. ป.ที่ 1 ประสาน ทำหน้าที่ประสานให้ประชาชนกับหน่วยงานรัฐ เช่นการประสานไฟฟ้า เนื่องจาก มีไฟฟ้าดับ ทางเราก็ดำเนินการช่วยประสานงานให้ดำเนินการเร็วขึ้น ป.ที่ 2 ปลอดภัย เนื่องจากการลงพื้นที่ชุมชนอยู่ตลอด ช่วงกลางคืนและเช้า มีจุดอับและมีความมืด ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ได้แก้ปัญหาช่วยติดตั้งไฟโซลาเซลล์ ที่เป็นจุดมืด จุดอับ ทำชาวบ้านรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น จึงได้ดำเนินชวนเพื่อนๆ มาร่วมช่วยกันทำ ทุกชุมชนในเขตราชเทวี มีหมดทุกเขต ป. ที่3 ป้องปราม








Advertisement

อยากให้เขตที่มีเยาวชนอยู่ ปลอดยาเสพติด เพราะยาเสพติดจะนำไปอยู่ความไม่ปลอดภัย นำไปอยู่การก่อเหตุและความสูญเสีย ป.ที่ 4 ปักหมุด ผลักสถานที่สำคัญในเขตเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ให้มีอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ และ พร้อมผลักดันตลาดอาหารฮาลาลให้เกิดขึ้น เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดกรุงเทพฯ ป. ที่ 5 ปราดเปรียว ลงพื้นที่ตลอด 3 ปี ทั้งเงินและเวลาที่ใช้ไป เวลาพื้นที่จะใช้คนลงพื้นที่น้อยมาก เพื่อความคล่องตัว

ป. ที่ 6 ลุงป้อม ถ้าไม่มีพล.อ.ประวิตร ไม่มีพลังประชารัฐในวันนี้ ขอโอกาสให้ลุงป้อม เป็นนายกรัฐมนตรี กาบัตรสีเขียว เบอร์ 37 ป. ที่ 7 ป.แป๊บ ขออาสาวันนี้เติบโตขอขอบคุณพ่อแม่ ขอนำความรู้ความสามารถ ตอบแทนสังคม กราบขอบคุณประเทศชาติ ทั้ง 3 เสาหลังที่มีวันนี้ สัญญาจะนำความ ความสามารถที่มีมาช่วยบ้านเมืองประเทศชาติ บริหารอย่างซื่อสัตย์ สุจริต แก่เขต ราชเทวี ปทุมวัน สาธร ที่รัก 14 พ.ค. เข้าคูหา กาเบอร์ 11

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตที่ 13 เบอร์ 8 กล่าวว่า ในชุมชนยังขาดเรื่องการส่งเสริมด้านสุขภาพ โดยเฉพาะหาพื้นที่ออกกำลังกายของคนในชุมชน เป็นเรื่องที่ควรผลักดัน ซึ่งได้มีการดำเนินการทำโครงการต้นแบบ เพราะมีพื้นที่ว่างอีกเป็นจำนวนมาก แต่เป็นของหน่วยราชการ ซึ่งตนได้ประสานหน่วยงานทำลานกีฬาแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้สุขภาพของคนในชุมชนดีขึ้น และเรื่องความปลอดภัย การติดไฟส่องสว่างมีความจำเป็น เพราะพบว่าในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ยังเป็นจุดเสี่ยงภัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งไฟส่องสว่าง จะเป็นการป้องปรามอาชญากรรมที่ได้ผล

ด้าน นายสกลธี กล่าวว่า อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของประชาชนทุกคน จึงอยากให้ทุกคนตั้งคำถามว่า อยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร อยากเห็นเศรษฐกิจที่ดี คนไทยกินดีอยู่ดี หรืออยากจะเห็นความแตกแยกของคนสองยุค อยากเห็นคอร์รัปชั่นเห็นยาเสพติดระบาดทั่วเมือง และสถาบันหลักของชาติถูกนำมาล้อเลียน และนำไปพูดอย่างสนุกปาก หรืออยากเห็นคำว่าชาติที่ไม่ใช่ศูนย์รวมของคนไทยอีกต่อไป ทุกอย่างอยู่ในมือของทุกท่าน ในวันที่ 14 พ.ค. นี้
“การเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคพลังประชารัฐ เรามีดีในหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล ศักยภาพของพวกเราไม่น้อยหน้าพรรคการเมืองไหนแน่นอน ซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าผู้สมัครของเราทั้ง 33 เขต และพรรคพลังประชารัฐได้เข้าไปทำงาน กทม. ต้องดีกว่านี้แน่นอน”

นายสกลธี กล่าวต่อว่า การก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐคือ อยากจะให้ประชาชนรักกัน การก้าวข้ามมันก็มีเส้นแบ่งที่ก็คงไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ เช่นการไปรวมกับพรรคที่ไม่เอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือพรรคที่ทำให้เศรษฐกิจของชาติล่มจม ด้วยการแจกหว่าน เพราะนักวิชาการก็บอกชัดว่า นโยบายเช่นนี้ จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังทลายอย่างแน่นอน พรรคการเมืองควรที่จะคิดนโยบายที่ช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่นโยบายที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชน และทำลายประเทศชาติ ด้วยการบอกว่าจะยกเลิก ม.112 ตนไม่มั่นใจว่าการยกเลิกไปแล้วจะทำให้ประชาชนรวยขึ้นอย่างไร

“ขณะนี้มีวาทกรรมออกมาจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์ของแต่ละพรรค แต่ผมอยากจะบอกทุกคนว่าเรารักใคร ชอบพรรคไหน เราก็เลือกตามใจของเรา ไม่ต้องไปกังวลว่าจะเลือกคนนั้น แล้วคะแนนจะเสียเปล่า คะแนนจะตกน้ำ เพราะทุกคะแนนเสียงของประชาชนคือกำลังใจให้กับผู้สมัครและพรรคการเมือง ขอให้ทุกคนเลือกด้วยหัวใจ เลือกในสิ่งที่เราต้องการและเราอยากได้เป็นพอ” นายสกลธี กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน