มาร์ค ปลุกคนกรุง อยากเลือกเพราะเกลียด-กลัว ยันปชป.ไม่มีเจ้าของ เหมือนพรรคสองลุง พรรคเสี่ย พรรคคนแดนไกล เชื่อไม่รู้ใครเป็นรัฐบาล แต่วุ่นวายแน่

เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 12 พ.ค.2566 ที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดการปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ภายใต้ชื่องาน “#SAVEประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVEประชาธิปไตยไม่โกง”

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยว่า ตนอยากมายืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนกับพรรคอื่นแน่นอน เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ ขณะที่พรรคอื่น ถ้าเอ่ยชื่อบางพรรค ก็ร้องอ้อ รู้เลยว่าตั้งขึ้นมาไว้สนับสนุนลุง อีกพรรคก็มีลุงอีกคน ส่วนอีกพรรคเป็นของเสี่ย และอีกพรรคมีคนแดนไกลกำกับอยู่หรือเปล่า แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรอย่างนั้น เพราะ 77-78 ปี พรรคประชาธิปัตย์มีไว้เพื่อสืบสานอุดมการณ์ ไม่ใช่เป็นเรื่องของบุคคล แต่มีประชาชนเป็นเจ้าของพรรค

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้ไปร่วมร่างนโยบายกับพรรค แต่รู้ว่าสิ่งที่กำหนดออกมา เป็นสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับประชาชนและประเทศไทย ดังนั้น อย่าเอาความกลัว ความเกลียดเป็นตัวตั้ง แต่ให้นึกถึงประเทศเป็นตัวตั้ง โดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวเลือกนี้ ยืนยันว่าคนที่มาเกี่ยวข้องกับพรรค มีทุกรุ่นที่จะช่วยประเทศได้ทั้งสิ้น เราเป็นพรรคที่สร้างคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่เหล่านั้นรู้ว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงต้องทำอย่างมีศิลปะ บางครั้งความพยายามจะเปลี่ยนแปลงโดยไม่เรียนรู้ความละเอียดอ่อน ความรู้สึกนึกคิดของคนต่างวัย ในที่สุดจะนำมาซึ่งความขัดแย้ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า เลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนต้องกาบัตรสองใบ ตนไม่ใช่เซียนการเมือง ได้ดูโพลบ้างแต่ไม่รู้ว่าพรรคไหนจะได้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าใครจะได้จัดรัฐบาล แต่พอจะมองเห็นความวุ่นวายหลายอย่างที่จะเกิดขึ้น เกี่ยวกับกติกาที่ออกแบบมา ตนยืนยันได้เพียงว่าเลือกประชาธิปัตย์เราจะเป็นหลักให้กับบ้านเมืองได้ เลือกประชาธิปัตย์เราจะช่วยฝันฝ่าวิกฤตต่างๆได้ จะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านเราทุ่มเททำงานให้กับประชาชนร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง จะทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและจะสืบทอดอุดมการณ์ของประชาธิปัตย์ตลอดไป

“ผมทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ แต่เมื่อใดจังหวะเวลาไม่ใช่ ผมก็พร้อมจะถอยให้คนอื่นทำงานได้ นี่คือความเป็นนักประชาธิปไตยที่ประชาธิปัตย์สั่งสอนมา ดังนั้น ผมไม่รู้ว่าสภาจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ เลือกตั้งครั้งหน้าอีก 4 ปีหรืออาจจะสั้นกว่านั้น ไม่รู้ว่าวันนั้นผมจะอยู่ในสถานะอะไร แต่รู้แน่ว่าผมยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตราบเท่าที่ประชาธิปัตย์รักษาอุดมการณ์ในวันที่ก่อตั้งเมื่อ ปี2489”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ตราบเท่าที่ตนเป็นสมาชิกพรรค เลือกตั้งครั้งหน้า หากพรรคสั่ง ตนก็ต้องมา อายุก็จะมากขึ้น แต่ความหล่อก็จะเพิ่มขึ้น และความรักความผูกพันที่มีให้กับประชาชนไม่มีวันลดลงแน่นอน เพราะนี่คือประชาธิปัตย์ของพี่น้อง ดังนั้น14 พ.ค.อย่าลังเลเเลือกประชาธิปัตย์ทั้งสองใบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน