วิษณุ ชี้ ปมหุ้นสื่อเป็นเรื่องของกกต.-ศาลรธน. ไม่จำเป็นต้องชี้ขาดก่อนหรือหลังโหวตนายกฯ ระบุ ถ้าศาลฯรับเรื่องอาจสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐธรรมนูญระบุบทบัญญัติเกี่ยวการถือครองหุ้นมีเจตนารมณ์อย่างไร ว่า ตนไม่ทราบ เดี๋ยวถ้าตนตอบไป ก็อาจไม่ถูก เรื่องประเด็นนี้ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาดแล้วกัน โดยในรัฐธรรมนูญเขียนไว้สั้นๆเท่านั้นโดยไม่ได้บอกว่ากี่หุ้น และไม่ได้บอกว่าต้องเป็นสื่อขนาดไหน โอเปอเรตคือดำเนินการอยู่หรือไม่ แต่ถ้าดูคำวินิจฉัยเก่าๆของศาลรัฐธรรมนูญ ก็อาจเห็นทิศทางได้เหมือนกัน เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยตัดสินเรื่องนี้มาแล้วหลายคดี

เมื่อถามว่ากรณีถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะต้องรีบทำให้เสร็จก่อนถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หรือเป็นเรื่องระหว่างคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กับศาลรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ กกต.กับศาลรัฐธรรมนูญ คือด่านที่ 1 กกต. ด่านที่ 2 ไปศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามย้ำว่าถ้ากกต.เห็นด้วย ก็ไปศาลรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ หรือถ้าไม่เห็นด้วย ก็สามารถปัดตกได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ เมื่อถามว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องไต่สวนฉุกเฉินก่อน หรือให้เป็นไปตามกระบวนการ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปตามปกติ ไม่มีอะไรแปลกประหลาด แต่เมื่อศาลรับเรื่อง มีสิทธิสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้

“อย่างเมื่อคราวคุณธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ) ที่เลือกนายกฯกันตอนนั้น อยู่ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. แต่ตัดสินออกมาในเดือน พ.ย.”นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่าแต่กรณีนี้ กกต.จะต้องรับรองเป็นส.ส.ก่อนหรือไม้ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ เมื่อถามอีกว่านายวิษณุมองว่าห้วงเวลาที่จะตัดสินออกมาจะอยู่ในช่วงไหน จะกระทบกับการเลือกนายกฯหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนตอบไม่ถูก เพราะกกต.ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน