พิธา ยัน ไม่ได้เอาประชาชนเป็นเกราะกำบัง ชี้ คดีหุ้นสื่อ ปล่อยให้เป็นตามกระบวนการกฎหมาย ลั่น เดินสายภาคเหนือ ไม่ได้วัดพลัง แต่วัดปัญหา-ศักยภาพ

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีการถือครองหุ้นไอทีวีของนายพิธา ในประเด็นการสอบสวน ม.151 ว่า ขณะนี้ตนยังไม่เห็นรายละเอียดของเอกสาร แต่ไม่ว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมายอยู่แล้ว ว่าทางกกต.จะต้องการข้อมูลอย่างไร ก็ให้อยู่ในกระบวนการและการต่อสู้ทางกฎหมายไป

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีการตั้งข้อสังเกตใช้ประชาชนมาเป็นเกราะกำบัง นายพิธา กล่าวว่า ตั้งใจทำงาน ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ทุกการประชุมมีการเตรียมล่วงหน้ามาตลอด เพื่อให้ใช้เวลาการประชุมอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เชียงใหม่รายได้การท่องเที่ยวหายไปครึ่งหนึ่งจากช่วงก่อนโควิด-19 ทำให้ปัญหาการท่องเที่ยวเป็นตัวอย่างที่จะต้องแก้ไข ไม่ใช่เป็นเรื่องเอาประชาชนมาเป็นเกราะกำบัง แต่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจริงๆ ถ้าเอามาเป็นเกราะกำบัง ก็คงไม่ต้องทำการบ้านหาข้อมูลมา

เมื่อถามว่า การมาเยือนลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ เป็นการวัดพลังในพื้นที่บ้านเดิมที่ก้าวไกลตีแตกแล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นการมาวัดปัญหา วัดศักยภาพของแต่ละพื้นที่ พอมาก็รู้ว่า ลำปาง สังคมสูงวัยเป็นปัญหาสำคัญ ลำพูน พี่น้องแรงงานและเกษตรกรลำไยเป็นปัญหาสำคัญ มาเชียงใหม่ปัญหาฝุ่น pm2.5 ปัญหาสาธารณะ ความเหลื่อมล้ำบนดอยกับพื้นราบ และปัญหาการท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งมาแต่ละครั้งต้องการรู้ว่า ปัญหาที่ต้องแก้คืออะไร และจะพลิกปัญหาเป็นโอกาสได้อย่างไร ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า

ส่วนจะมีโอกาสเลือกตั้งผู้ว่าฯ เชียงใหม่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า แน่นอน ไม่ใช่แค่เลือกตั้งอย่างเดียว แต่การกระจายงบประมาณ กระจายอำนาจ และกระจายภารกิจออกมา เพื่อยึดโยงกับพี่น้องประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน