พท.ย้ำต้องคุยกับ ก.ก. ให้จบจึงจะได้รายชื่อ ประธานสภาฯ – รองประธานสภาฯ ยันยังไม่เคาะชื่อใครในที่ประชุมพรรค
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีมีชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า บุคคลที่จะลงไม่ว่าตำแหน่งอะไรในสภา พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พิจารณา แม้กระทั่งที่มีกระแสข่าวนายสุชาติ คิดว่าหลังจากพรรคเพื่อไทยได้คุยกับพรรคก้าวไกลแล้ว เราจึงจะเริ่มพิจารณารายชื่อ
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพรรคก้าวไกลจะถอยเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ แล้ว จริงหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า “ไม่ทราบครับ ไม่ได้รับแจ้งเช่นนั้น”
เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยได้คุยกับนายสุชาติ แล้วหรือยัง นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย ส่วนจำเป็นต้องคุยหรือไม่นั้น ตนคิดว่า ไม่ เพราะในที่ประชุมพรรคคงมีความชัดเจนในเรื่องนี้มากขึ้น และคงมีการพูดคุยในเรื่องนี้ โดยจะเป็นการรับฟังความคิดเห็นต่อเนื่องจากวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนการตัดสินใจจะเป็นช่วงหลังจากวันที่ได้ไปคุยกับพรรคก้าวไกลวันที่ 28 มิ.ย.ก่อน
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลก็ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่เคย ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยมีจุดยืน 2 เรื่องตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งทางพรรคก้าวไกลก็ยังไม่มีการพูดคุยตั้งแต่นั้น เพียงแต่เรามีการนัดกันมาเรื่อยๆ แต่ก็คลาดเคลื่อนกันเรื่อยๆ จนเราคิดว่าวันที่ 28 มิ.ย. เป็นช่วงใกล้แล้ว น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนแล้ว และจากวันที่ 28 มิ.ย. ถึงวันที่ 4 ก.ค. ก็เป็นเวลาที่สั้น
เมื่อถามว่าวันที่ 28 มิ.ย.จะมีรายชื่อเปิดเผยออกมาใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า อาจจะสรุปร่วมกันได้ว่าทิศทางประธานสภา และรองประธานสภาจะเป็นอย่างไร หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการสรรหาของแต่ละพรรค
ทั้งนี้ ต้องตกลงกันก่อนว่าใครจะอยู่ตรงไหน ฉะนั้นการที่จะเสนอรายชื่อเพื่อมาพูดคุยในที่ประชุมนั้น ยังสรุปไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วตำแหน่งประธานสภามีคนเดียว และตำแหน่งรองประธานสภามี 2 คน คิดว่าในวันที่ 28 มิ.ย. หากพูดคุยกันได้ พรรคเพื่อไทยก็จะดำเนินการในเรื่องของรายชื่อโดยเร็ว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยมีการเตรียมพร้อมหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้อย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า วันที่ 29 มิ.ย.ที่เป็นวันประชุมพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค น่าจะมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ด้วยว่าสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากมีการเลือกประธานสภาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกนายกฯ อาจจะต้องมาพูดคุยอย่างรอบคอบ ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจำนวนสมาชิกที่สนับสนุน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการซื้อเสียงส.ส.เป็นเงินหลักร้อยล้าน นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็ปรากฏเป็นข่าว แต่ครั้งนี้ตนคิดว่าไม่ง่ายเท่าไหร่ วันนี้ประชาธิปไตยพัฒนาไปไกลแล้ว การจะกลับมาเหมือนที่เขาบอกว่าตั้งรัฐบาลงูเห่านั้น เป็นการถอยหลัง ส่วนกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า คนขายเป็นงูเห่า คนซื้อเป็นควายนั้น ก็เป็นความคิดของนายอนุทิน
เรามั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องพวกนี้ เราไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้เลย เพียงแค่ขอให้ส.ส. ซึ่งเราได้กำชับว่าวันโหวตประธานสภาฯ หรือในอนาคตที่จะมีการโหวตเลือกนายกฯ ขอให้สมาชิกพร้อมเพรียงกัน ห้ามลา ห้ามขาด เพราะถือเป็นวาระสำคัญ 141 เสียงต้องอยู่ครบ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งปี 66 เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ส.ส.งูเห่าไม่ได้กลับเข้าสภาทุกคน ดังนั้น ขอให้เป็นข้อพึงระวังว่า อย่าทำ และไม่ควรทำอีก เพราะเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าการฟรีโหวตจะต้องคุยอีกครั้งใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในการโหวตเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นญัตติหรือวาระสำคัญ ปกติพรรคจะกำหนดแนวทางในการโหวต ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่เมื่อมีการประชุมพรรคจะมีความชัดเจนเพิ่มขึ้น และการโหวตในวาระประธานสภาฯ ก็จะไม่ใช่การฟรีโหวต ทั้งนี้ แม้จะเป็นการลงคะแนนลับที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครจะลงคะแนนอย่างไร แต่เราก็ต้องเชื่อใจกัน มั่นใจว่าจะไม่มีใครสวนมติ
เมื่อถามว่าหากมีการโหวตสวนมติจะกระทบความสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ดูคะแนนออกมาก่อน เรื่องยังไม่เกิดขึ้น และครั้งนี้เป็นวาระแรกของการประชุมสภา ฉะนั้นพรรคจะกำชับสมาชิกทุกคนให้เข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่ให้ขาดสักคน จึงไม่กังวลเรื่องที่สมาชิกจะขาด ลาหรืออ้างว่ามีธุระ
เมื่อถามถึงกรณีพรรคก้าวไกลพยายามนำเสนอให้วันที่ 24 มิ.ย.เป็นวันชาติ นายประเสริฐ กล่าวว่า เข้าใจว่าวันชาติไทยมีอยู่แล้ว ฉะนั้นเรื่องการจะกำหนดว่าวันไหนเป็นวันสำคัญของชาติ ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ การมีอยู่แล้วและจะเปลี่ยนแปลงอะไรต้องคิดให้รอบคอบก่อน เรื่องนี้คนทั้งชาติต้องเห็นร่วมกัน ไม่ใช่แค่พรรคการเมือง
