อดีตคณบดีนิติศาสตร์ มธ. ถาม กกต. คนนำหลักฐานเท็จ ร้อง พิธา ถือหุ้นไอทีวี ได้ดำเนินการอย่างไรหรือไม่ ชี้ชัดเข้าข่ายมีความผิด

วันที่ 11 ก.ค.2566 นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีรายละเอียดว่า เรียน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลขาธิการ กกต. ตามที่ กกต.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้อง 3 ราย กล่าวหาว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี (itv) ซึ่งประกอบกิจการเป็นสื่อมวลชน จำนวน 42,000 หุ้น เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 98(3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 42(3)

โดยต่อมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 กกต.ได้พิจารณาลงมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องทั้ง 3 รายไว้พิจารณา เพราะยื่นเกินกำหนดเวลาตามระเบียบของ กกต.นั้น

ในการยื่นคำร้องกล่าวหาดังกล่าว ปรากฏว่าได้มีการนำหลักฐานต่างๆ มายื่นต่อ กกต.เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาตามคำร้องของตนหลายครั้ง แต่จากการตรวจสอบของสื่อมวลชนรายหนึ่ง พบว่ามีการนำหลักฐานบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทไอทีวี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งมีข้อความไม่ตรงกับข้อความของผู้พูดในเทปอัดเสียงการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้มายื่นกับ กกต. แสดงว่าน่าจะได้มีการทำหลักฐานเท็จขึ้นมา เพื่อนำมาใช้ยืนยันข้อกล่าวหาตามคำร้องของตน อันเป็นการกระทำที่เข้าลักษณะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 143

ฉะนั้น จึงขอเรียนถามว่า กกต.ได้ดำเนินการอย่างไรหรือไม่ เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีแก่ผู้ร้องที่นำหลักฐานเท็จดังกล่าวมายื่นต่อ กกต. และหาก กกต.ไม่คิดจะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อผู้กระทำการอันเป็นเท็จดังกล่าว เป็นเพราะเหตุใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน