“สมเจตน์”ข้องใจแก้รธน.ล้างผิดคดีทุจริต ขอให้เสียสัตย์ เพื่อประเทศสงบ พรรคเล็กยก 10 ล้านเสียงเลือกเพื่อไทย ข่ม สว. ซัดเป็นไปไม่ได้ ไม่รู้จัก ​“เศรษฐา”

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ส.ค.2566 พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว. อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทย มีแนวคิดแก้รัฐธรรมนูญทันทีที่ประชุมครม.นัดแรก อยากถามว่า รัฐธรรมนูญปี 60 มีปัญหาอะไรให้เร่งแก้ไข เป็นเพราะรัฐธรรมนูญนี้มีกลไกป้องกันนักการเมืองทุจริตเข้มงวด อาทิ ตัดสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต การให้คดีทุจริตไม่มีอายุความ กลไกเหล่านี้ ทำให้พรรคเพื่อไทยที่มักมีปัญหาทุจริต คนสำคัญบางคนต้องหลบหนีคดี เพราะไม่มีอายุความ จำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม

ดังนั้นหากมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กลไกขจัดนักการเมืองทุจริตจะหายไป สอดคล้องความต้องการบางพรรคการเมืองที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญหมวดสถาบัน การแบ่งแยกราชอาณาจักร การทำประชามติรัฐธรรมนูญใหม่จะยิ่งสร้างความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น เพราะการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างอำนาจองค์กรอิสระ ลบล้างความผิดให้นักการเมืองทุจริต เพิ่มประเด็นความขัดแย้งมากขึ้น จะกระทบความมั่นคงชาติร้ายแรงมากกว่าการแก้มาตรา 112

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม

ดังนั้นจะสนับสนุนนายกฯพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยจะเสียสัตย์ ให้ประเทศสงบ ยืนยันจะไม่เสนอแก้รัฐธรรมนูญทันที แต่จะเสนอในห้วงเหมาะสม เมื่อสังคมสงบสุข การเสียสัตย์ครั้งนี้จะได้รับคำสรรเสริญทำเพื่อประเทศ ถ้าทำเช่นนี้ จะสนับสนุนนายกฯเพื่อไทย

ขณะที่ นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ อภิปรายว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ข้อครหาเรื่องการเลี่ยงภาษีที่ดิน โดยการแยกโอนการซื้อขายที่ดินเป็นรายวัน รายบุคคล 12 คน 12วัน เพื่อภาษีที่ดิน 70ล้านบาท ไม่ใช่ 580ล้านบาทนั้น เป็นระเบียบของกรมที่ดินในการเสียภาษีให้ทำได้ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย

เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ

ส่วนที่หลายคนบอกว่าไม่รู้จักนายเศรษฐานั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะตลอดการเลือกตั้ง แคนดิเดตนายกฯทุกพรรคได้แสดงวิสัยทัศน์มาตลอด จะไม่รู้จักได้อย่างไร พรรคเพื่อไทยได้รับคะแนนเลือกตั้งจากประชาชน 10 ล้านเสียง ถือว่าผ่านการตรวจสอบจากประชาชนมาแล้ว จึงมีความเหมาะสมเป็นนายกฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน