ปดิพัทธ์ แจงปมตรวจรับมอบสภาฯไม่ทันตามกำหนดการเดิม เหตุยังมีข้อขัดแย้งในกก.ตรวจรับ ชี้ไม่เกี่ยวกับคดีที่อยู่ใน ป.ป.ช. เตรียมถกทุกภาคส่วน

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงการตรวจรับมอบอาคารรัฐสภา มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านว่า จากกรอบเวลาเดิม จะต้องส่งมอบตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ายังมีความเห็นแย้งในตัวกรรมการอยู่ จึงทำให้ต้องได้ข้อมูลชี้แจงความขัดแย้งก่อน ซึ่งจะมีความชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้

โดยเรื่องที่ประชาชนสนใจมีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.อาคารรัฐสภาสมบูรณ์พอที่จะตรวจรับหรือยัง เงื่อนไขเป็นไปตามแบบสัญญาหรือไม่ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกรรมการตรวจงานจ้าง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายเลขาธิการสภา ฉะนั้น หากใครยังเห็นว่าอาคารรัฐสภาแห่งนึ้มีจุดที่ต้องสงสัย หรือเป็นจุดที่คาดว่าอาจจะไม่เป็นเหตุให้ตรวจรับได้ ก็ส่งเรื่องเข้ามาที่รองประธานสภาได้ เราจะได้ช่วยกันตรวจสอบอาคารที่เป็นบ้านของพวกเรา และเป็นอาคารสำคัญของประเทศไทย

2.เรื่องค่าปรับ ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงมาตราการที่เกี่ยวข้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีการเปลี่ยนครม. จากช่วงที่มีการก่อสร้าง เราจะมีการรวบรวม และเปิดเผยสู่สาธารณะ เพราะเรื่องนี้เป็นความโปร่งใส ที่เราต้องการให้สังคมรับทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเงินภาษีของพวกเราที่ทำให้สภาแห่งนี้ไม่สามารถตรวจรับได้ตามเวลา และมีใครได้ หรือมีใครเสีย และมีใครต้องรับผิดชอบเรื่องอะไรบ้าง ถ้าเราดำเนินการทุกอย่าง และตรวจรับได้ภายในเดือนก.ย.นี้ เราก็จะมีการเปิดใช้อาคารรัฐสภาอย่างเป็นทางการ

ส่วนเรื่องการฟ้องร้อง และข้อร้องเรียนต่างๆ ที่อยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น สามารถแยกออกจากการตรวจรับได้ เนื่องจากเมื่อเราตรวจรับเรียบร้อย อยู่ในระยะเวลาประกัน 2 ปี คดีของป.ป.ช. ก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเราก็พร้อมให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือต่อการตรวจสอบการทุจริตที่เกิดขึ้น

“ผมไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้จ้าง และผู้รับจ้าง แต่ผมจะเป็นตัวแทนของประชาชนในการตรวจสอบเรื่องนี้ให้มีความโปร่งใสมากที่สุด” นายปดิพัทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่าสาเหตุหลักๆ ที่ไม่สามารถตรวจรับงานได้ในวันที่ 18 ก.ย.คืออะไร นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ยังเป็นความไม่สมบูรณ์ตามเงื่อนไขของแบบ รัฐสภามีผู้รับผิดชอบหลายหน่วยงาน สำหรับหน่วยรับผิดชอบของสำนักเลขาธิการเป็นเรื่องหลักที่เราจะตรวจรับ ซึ่งมีบางส่วนที่ยังมีข้อสงสัย คือมีความเห็นแย้งว่าไม่เป็นไปตามแบบ

นายปดิพัทธ์ กล่าวยอมรับว่า คงต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการรับฟัง ชี้แจ้งข้อสงสัย และข้อขัดแย้งในหลายๆ ส่วน ศึกษาสำนวนคดีและคำร้อง รวมถึงยังเชื่อมโยงกับหลายองค์กร โดยตนจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาประชุม และชี้แจงทั้งหมดภายหลังที่กลับจากดูงานที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว และสำหรับการสรรหาเลขาธิการสภาคนใหม่ จะมีการเลือกสรรหาในช่วงเดือนต.ค. เพื่อให้ไม่มีปัญหาในการส่งมอบงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน