ปดิพัทธ์ โยน เลขาธิการสภาฯ เคาะตรวจรับรัฐสภา บอกเป็นไปตามระเบียบว่าจ้าง จ่อเสนอ ‘วันนอร์’ ตั้งกก.ยุติข้อพิพาท มีสส.-สว.ร่วมวง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง แถลงความคืบหน้าการตรวจรับอาคารรัฐสภา ใช้งบกว่าหมื่นล้าน ว่า จากการหารือและเรียกคณะกรรมการตรวจการจ้างเข้ามาชี้แจงความคืบหน้าในการตรวจรับอาคารรัฐสภานั้น มีความเห็นแย้งในการตรวจรับ เนื่องจากยังไม่สามารถทำให้อาคารรัฐสภาตรงตามแบบได้ทั้งหมด 6 จุด ซึ่งกรรมการเสียงข้างน้อยได้ทำความเห็นแย้งส่งให้กับเลขาธิการสภาฯ เรียบร้อยแล้ว

โดยในระเบียบการจ้าง เมื่อมีความเห็นแย้งเกิดขึ้น คนที่ชี้ขาดได้คือ เลขาธิการสภาฯ แต่ขณะนี้ นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ กำลังจะเกษียณอายุราชการ จึงเป็นอำนาจของนางพรพิศ ว่าจะจัดการให้เสร็จในสมัยของท่านหรือไม่ หรือจะรอแต่งตั้งเลขาธิการสภาฯ คนใหม่ในเดือนต.คก่อน

ส่วนตน เมื่อความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง และส่งผล 2 เรื่อง คือ 1.กรณีที่บริษัทผู้รับจ้างฟ้องร้องต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เพราะความผิดพลาดของสำนักงานนั้น เป็นหน้าที่ของสภาฯ ต้องต่อสู้ในทางคดี 2.ค่าปรับ ในช่วงมาตรการโควิด-19 ที่ทำให้การก่อสร้างล่าช้า ซึ่งมีการพิจารณาและมีมติงดเว้นค่าปรับ 851 วัน อีก 150 กว่าวัน เป็นเรื่องมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ปี 59 ที่มีการช่วยเหลือค่าแรง ที่ไม่สามารถปรับขึ้นเป็น 300 บาทได้ ทำให้มีค่าปรับวันละ 12 ล้านบาท จำนวน 990 วัน ซึ่งจะทำให้ค่าปรับเป็นศูนย์

เราต้องหากรรมการเพื่อแก้ไขสัญญา มติครม. หรือผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสัญญานั้น ทำไปโดยรอบคอบ มีความชอบธรรมหรือไม่ และทำให้สภาฯเสียผลประโยชน์โดยไม่จำเป็นมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทได้อย่างไร ทั้งนี้ พบว่าประเด็นที่นางพรพิศ ลงนามเว้นเรียกค่าปรับนั้น ต้องหารือกับฝ่ายกฎหมายอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหน่วยงานที่เสนอให้เว้นค่าปรับเป็นส่วนของหน่วยงานภายนอก

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า กรรมการที่เราจะเสนอตั้ง ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร หากเลขาธิการสภาฯ ยืนตามเสียงข้างมาก เราจะได้รับการตรวจมอบสภาอย่างเป็นทางการภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ แต่ผลที่ตามมา หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หรือไม่ตรงแบบ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเป็นเรื่องมากกว่าผู้รับจ้าง เพราะต้องได้ความชัดเจนจากผู้ตรวจรับงาน และที่ปรึกษาในการดำเนินโครงการ

ถ้าไม่รับเรื่องนี้จะถูกดำเนินการต่อ คือผู้รับจ้างจะปรับ 6 จุด ที่มีปัญหาให้ตรงตามแบบได้หรือไม่ หากทำไม่ได้จะนำไปสู่การแก้สัญญาหรือไม่อย่างไร ก็ต้องเป็นนโยบายของเลขาธิการสภาฯ คนใหม่ ทั้งนี้ กรรมการที่เราจะตั้งขึ้นน่าจะหาข้อยุติในเรื่องนี้ให้ได้ เพราะหากปล่อยให้คาราคาซัง เราก็จะใช้พื้นที่ในรัฐสภาไม่ได้ ขณะเดียวกันต้องตรวจรับงาน และมีคนรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามเตรียมเสนอต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ พิจารณาตั้งคณะกรรมการ โดยจะมาจากทั้งฝั่งสส. และสว. เพื่อยุติข้อผิดพลาดต่างๆ และให้สภาฯ เปิดใช้งานได้คุ้มค่าภาษีของประชาชน

ส่วน 6 จุดที่ต้องปรับให้ตรงตามแบบจะมีรายละเอียดอย่างไร ต้องรอรายงานของคณะกรรมการตรวจการแจ้งฯ อีกครั้ง ซึ่งกรณีดังกล่าวหากแก้ไม่ได้ ต้องแก้ไขสัญญา ซึ่งขึ้นอยู่กับเลขาธิการสภาฯ คนใหม่

เมื่อถามว่ากรณีที่พบว่าการตัดสินใจตรวจรับงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ที่มีความเห็นแย้ง ซึ่งพบว่านางพรพิศ เป็นกรรมการฝั่งเสียงข้างมาก มองว่าการมอบหมายให้ตัดสินใจจะเป็นการยืนยันมติตนเองหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มอบหมาย แต่เป็นไปตามระเบียบการจ้าง คนที่มีอำนาจสูงสุดคือ เลขาธิการสภาฯ ส่วนความเห็นต่างหรือเห็นแย้งนั้น ต้องดูเหตุผลประกอบ รวมถึงชั่งน้ำหนักเสียงข้างมากให้ดี เชื่อว่าเลขาธิการสภาฯ จะตัดสินใจอย่างรอบคอบที่สุด แต่หากส่งต่อให้เลขาธิการสภาฯ คนใหม่ ตนจะติดตามว่าจะตัดสินใจอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน