“สุทิน” โต้ “สมชัย” ข้อมูลเรือดำน้ำคาดเคลื่อน 5,000 ล้าน ยัน เพื่อไทย ไร้ใบสั่ง ซื้อเรือฟริเกต ชี้ เปลี่ยนเรือง่ายกว่า เปลี่ยนเครื่องยนต์จีน
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2566 ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการเปลี่ยนโครงการจัดหาเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกตว่า อาจจะมีการเข้าใจขั้นตอนไม่ถูกต้อง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ยังอยู่ในระหว่างหาทางออกร่วมกัน และเสนอทางเลือกให้กับจีน หากบรรลุข้อตกลงแล้ว จากนั้นจึงนำไปสู่การเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเป็นมติครม. เพื่อแก้ไขข้อตกลงในสัญญาจัดซื้อจีทูจีต่อไป
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงถือว่าเป็นการไปเจรจากับทางจีนนอกรอบก่อน เพราะในขณะนี้ทางจีนเพียงแต่รับไว้พิจารณาในเรื่องการเปลี่ยนโครงการเป็นเรือฟริเกต และขอให้มาคุยกันในขั้นรายละเอียด เมื่อเป็นไปได้ในแนวทางนี้ก็จะกลับมาเป็นมติครม.ต่อไป จึงยังไม่ต้องแก้อะไร ขอไปคุยกับทางจีนก่อน
นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนกระแสสังคมที่วิจารณ์การเปลี่ยนแปลงโครงการนั้น ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นความกังวลของสังคม เนื่องจากยังทราบข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยจะอธิบายให้รับทราบ เพราะเราคิดไว้หมดแล้วว่าจะใช้งานอย่างไรไม่ให้สูญเปล่า และที่จะจัดหาเข้ามาใหม่ก็จะต้องสมดุล ไม่เกินกับเงินที่เราต้องจ่ายไป เราคิดกันแล้วว่าเป็นทางออกที่เราไม่เสียหาย ไม่เสียของ แต่แน่นอนอาจจะไม่ได้ดั่งใจเราทุกอย่าง แต่จะไม่เสียทุกอย่าง
ส่วนแนวทางหากเงินส่วนต่างเหลือ จะนำไปซื้อปุ๋ยจากทางจีนนั้น นายสุทิน กล่าวว่า เป็นกรณีที่หากซื้อของถูกอาจมีเงินเหลือ ก็อาจจะแลกเป็นอย่างอื่น แต่ถ้าซื้อของแพง จำเป็นต้องเพิ่มเงินด้วยซ้ำไป เนื่องจากเรือฟริเกตไม่ใช่ของถูก
ส่วนกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนทางพรรคเพื่อไทยจะต้องการเรือฟริเกตนั้น นายสุทิน กล่าวว่า นายสมชัย ได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วได้ข้อมูลผิดเกือบ 5,000 ล้านบาท ย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ต้องการเรือฟริเกตมากกว่ากองทัพเรือตามที่มีบางคนตั้งข้อสังเกต ซึ่งทุกอย่างเกิดจากการหารือร่วมกัน
“หากจะมีใบสั่งก็เป็นเรื่องที่ประชาชนสั่งว่า ถ้านำเครื่องยนต์จีนแล้วจะเกิดความยุ่งยาก และเชื่อว่าถ้าเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกตก็คงจะมีความยุ่งยาก แต่น่าจะง่ายกว่าการเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์จีน” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการขอคืนเงินจากจีน กรณีผิดสัญญาเรื่องเครื่องยนต์นั้น ต้องมีการเจรจากันก่อน หากเจรจาไม่ได้หรือหาข้อตกลงกันไม่ได้ การขอคืนเงินจะเป็นแนวทางสุดท้าย ซึ่งต้องพิจารณาหลายมิติ รวมทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนการหารือกับกองทัพเรือเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) เป็นการพิจารณาในเรื่องของข้อเสนอ และข้อกฎหมายต่างๆ โดยเชื่อแนวทางการเปลี่ยนเป็นฟริเกต จะเป็นแนวทางที่ง่ายกว่า