นิกร เผย เปิดสมัยประชุมสภาฯ ธ.ค.นี้ ส่งร่างคำถามประชามติให้ สส.-สว. กรอก ส่วนสาระร่างคำถามประชามติ 3 ประเด็นสำคัญ แก้ทั้งฉบับ แต่เว้นหมวด1-2 หรือ แก้รายมาตรา

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีนายนิกร จำนง เป็นประธาน ได้รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนรัฐสภา ผ่านคณะกรรมาธิการ (กมธ.) 2 คณะคือ

กมธ.การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.เป็นประธาน เมื่อวันที่ 30 ต.ค. และ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา

การหารือในคณะกรรมาธิการ 2 คณะ นอกจากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นแนวทางการออกเสียงประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ทางอนุกรรมการฯ ได้เสนอร่างคำถามการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภา และตัวแทนประชาชนกลุ่มต่างๆ เกี่ยวกับแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ใน 3 ประเด็นคำถาม ดังนี้

1.ท่านเห็นสมควรจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่ 2.ท่านต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 (1) ทั้งฉบับ โดยคงไว้ซึ่งหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ (2) แก้ไขรายมาตรา และ 3.ในการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ท่านเห็นสมควรจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาดำเนินการหรือไม่

อนุกรรมการฯ ยังสอบถามถึงจำนวนครั้งของการทำประชามติ ที่เกิดขึ้นได้ในกรณีต่างๆ ดังนี้ 1.ออกเสียงประชามติ 1 ครั้ง ก่อนเริ่มแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ที่กำหนดว่าประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญ 2.ออกเสียงประชามติ 1 ครั้ง กรณีแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 เพื่อกำหนดที่มาของ ส.ส.ร.

3.ออกเสียงประชามติ 1 ครั้ง เมื่อจัดดทำร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนเห็นชอบก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมกับคำถามว่า ในการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ท่านเห็นสมควรจัดออกเสียงประชามติกี่ครั้ง คือ 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง หรือมากกว่า 3 ครั้ง

นายนิกร จำนง ให้สัมภาษณ์ว่า อนุกรรมการฯ จะส่งร่างคำถามประชามติไปยัง สว. และ สส. ให้ตอบในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยหน้าในเดือนธ.ค.2566 โดยส่งเป็นรายบุคคลในวันที่มาประชุมสภา จะฝากเจ้าหน้าที่ที่รับเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมแจกไปทีเดียว ทั้งนี้ จะไม่ใช้วิธีส่งเป็นจดหมายไปที่บ้าน หรือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เนื่องจากกังวลว่าสมาชิกจะไม่กลับไปยังภูมิลำเนา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน