ธนาธร ยอมรับครั้งแรก บินพบ ‘ทักษิณ’ ช่วงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คุยเรื่องชีวิต ไม่ได้เจรจาต่อรอง เพราะไม่มีตำแหน่งในพรรค อาจเสี่ยงยุบพรรค

วันที่ 20 พ.ย. 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ในรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ เป็นผู้ดำเนินรายการ หลังจากนายธนาธร ได้เปิดบรรยายสาธารณะ ในหัวข้อ “ประเทศไทยควรได้อะไร ? หากต้องใช้ 5 แสนล้านบาท” เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา

นายธนาธร กล่าวตอนหนึ่งว่า ยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท หากจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ต้องทำให้คนมีรายได้ สร้างความมั่นคงในการสร้างงาน และสร้างอุตสาหกรรมให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันได้ และตนยินดีจะไปแชร์ข้อมูลเรื่องการใช้เงิน 5 แสนล้าน ที่ตนคิดโครงการขึ้นมา เช่น โครงการน้ำประปาดื่มได้ และการแก้ปัญหาระบบจัดการขยะทั่วประเทศ

ธนาธร ยอมรับครั้งแรก บินพบ‘ทักษิณ’ ช่วงตั้งรัฐบาล ปัดเจรจาต่อรอง เสี่ยงยุบพรรค

ธนาธร ยอมรับครั้งแรก บินพบ‘ทักษิณ’ ช่วงตั้งรัฐบาล ปัดเจรจาต่อรอง เสี่ยงยุบพรรค

ผมคิดว่าพันธมิตรระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล จะเป็นพันธมิตรทำให้ประเทศก้าวหน้าที่สุดและกลับมาเป็นประชาธิปไตย ผมเชื่ออย่างนั้น กลับไปดูที่ผมพูดเมื่อวาน ผมไม่ได้พูดถึงพรรคเพื่อไทยเลย เราพยายามเสนอสิ่งที่เราอยากจะทำ ไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร แต่พรรคเพื่อไทยคือมิตรสำหรับผม แม้จะอยู่คนละฝั่ง เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราเป็นฝ่ายค้าน ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวว่า ถึงแม้ตนจะรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดที่สุดที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลกับเรา เราก็รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ แต่ตนเข้าใจข้อจำกัดของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ถึงแม้จะเสียใจโอกาสของประเทศ เสียดายที่ไม่ได้เอาแนวคิดเราไปบริหาร

แต่สำหรับตน เพื่อไทยคือมิตร และทางออกที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าต้องมี 2 พรรคนี้ ฝากถึงเพื่อนในพรรคก้าวไกลและแกนนำพรรคเพื่อไทยด้วย อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือคุณทั้งสอง

นายธนาธร กล่าวถึงกระแสข่าวเดินทางไปฮ่องกง เพื่อเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ฮ่องกงว่า “ก็เป็นปกติที่เราพบปะพูดคุยกับนักการเมืองทั่วไป แต่ยอมรับว่า ก่อนจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ ได้มีการพบปะพูดคุยกันจริง แต่คุยเรื่องชีวิต เช่น ชีวิตมีหลานแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้ไปต่อรองเรื่องจัดตั้งรัฐบาล เพราะผมเองไม่มีตำแหน่งในการเมือง และก็อาจจะโดนยุบพรรค ถ้าไปต่อรอง”

เมื่ถามว่านายธนาธรไม่มีอำนาจเหนือพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่ นายธนาธร ระบุว่า วันนี้ ตนภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นพรรคก้าวไกล เติบโต โดยไม่มี ธนาธร และ ปิยบุตร (ปิยบุตร แสงกนกกุล) ตนภูมิใจมาก และอยากให้เป็นแบบนั้น มันทำให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลเป็นสถาบันการเมือง ไม่ใช่เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง ตนอยากให้เป็นแบบนั้น

ตนคิดว่าทำให้พรรคมีสุขภาพทางการเมืองที่ดี คือไม่ใช่เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่พรรคของธนาธร และปิยบุตร แต่เป็นพรรคที่สมาชิกพรรคร่วมมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของร่วมกัน

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นายธนาธร ยอมรับว่าได้ไปพบกับนายทักษิณ จริงที่ฮ่องกง ในช่วงปลายเดือนก.ค.2566 ซึ่งเป็นช่วงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน 8 พรรค ที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ได้ทำ MOU ร่วมกับเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน