เลขาฯกฤษฎีกา โอดโดนด่าเละ เหตุตีความพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน แจง‘คลัง’ ยังไม่ส่งเรื่องถาม ยันเป็นนักกฎหมาย ไม่ใช่นักการเมือง ชี้ไม่ใช่หน้าที่บอกประเทศวิกฤตหรือไม่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ตนได้พบและถามนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ถึงกรณีรัฐบาล มีข้อสอบถามเรื่องการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน เพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาทว่า จะมีหนังสือมาถึงกฤษฎีกา ว่าสามารถทำได้หรือไม่ เมื่อไหร่ และได้คำตอบจากรัฐมนตรีว่ากำลังดูอยู่

นายปกรณ์ กล่าวว่า ขออธิบายขั้นตอนในเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันว่า เมื่อคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ มีมติให้กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการ ถามมาที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากพบเงื่อนไขจะสามารถกู้ได้หรือไม่เท่านั้น โดยมติมีเพียงแค่นั้น ยังไม่ได้ไปถึงขั้นตอนการยกร่างกฏหมาย

ขอย้ำว่าเป็นการให้ถามคำถามเท่านั้น เมื่อส่งคำถามมาแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามปกติโดยไม่มีการตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษ ทุกอย่างตรงไปตรงมา ถ้าเข้าเงื่อนไขก็ทำได้ ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขก็ทำไม่ได้ คำตอบมีเพียงเท่านั้น หากทำได้ก็จะเป็นการยกร่างกฏหมาย อีกขั้นตอนหนึ่ง

“เมื่อเช้าผมทวงถามจากรัฐมนตรีเรื่องนี้ เพราะผมถูกด่าว่าทำงานช้า ทั้งที่เรื่องยังไม่ส่งมาถึงผม ทางสภาพัฒน์ก็รอ เพราะนึกว่าเรื่องได้ส่งมาที่ผมแล้ว ทุกคนคิดแบบนี้ แต่ปรากฏว่านักข่าวรู้มากกว่าผมอีก” นายปกรณ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสภาพัฒน์ฯบอกว่า ถ้าคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นมาว่า ถ้าครม.ไปต่อทางนี้ไม่ได้ อาจมีทางอื่นหรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า ไม่รู้ เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องคิด ไม่ใช่เรื่องของตน และคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้คำแนะนำไม่ได้ เพราะไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นนักกฏหมาย

โดยกฎหมายที่จะนำมาพิจารณาประกอบ มีทั้งรัฐธรรมนูญ เรื่องการจ่ายเงินแผ่นดิน และยังมีกฏหมายหลายฉบับประกอบ เช่น กฎหมายงบประมาณ กฎหมายการเงินการคลัง กฎหมายหนี้สาธารณะ พ.ร.บ.เงินตรา จึงไม่สามารถตอบแทนได้ว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤต

เมื่อถามว่ารัฐบาลฝากความหวังไว้ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้าวิธีออกพ.ร.บ.กู้เงิน ไม่ได้ จะใช้ช่องทางใดได้บ้าง นายปกรณ์ กล่าวว่า การจะเข้าเงื่อนไขหรือไม่ต้องดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งตนไม่รู้ไม่สามารถตอบแทนได้

เมื่อถามย้ำว่าเลขาธิการนายกฯ อยากจะขอคำแนะนำจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าจะทำอย่างไรถึงจะเดินหน้าโครงการได้ นายปกรณ์ กล่าวว่า คำถามที่ว่าทำอย่างไรให้ทำได้ ไม่ควรมาถามเพราะไม่ใช่คนกำหนดนโยบาย ก็ไม่ใช่หน้าที่ ย้ำว่าเรื่องวิกฤตหรือไม่วิกฤตไม่ใช่หน้าที่ของกฤษฎีกา แต่เป็นหน้าที่ของครม.ที่จะหาข้อมูลมาสนับสนุน ที่โต้เถียงกันก็ไม่รู้

เมื่อถามกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่ารัฐบาลกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ นายปกรณ์ กล่าวว่า เรื่องยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นการไปร้องล่วงหน้าก่อนหรือไม่ ก็ไม่ทราบ เพราะคณะกรรมการยังไม่มีมติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน