วิโรจน์ ตะเพิด ‘ผบ.ทร.-รมว.กลาโหม’ ไปเคลียร์กันก่อน ปมเปลี่ยนเรือดำน้ำ เป็นเรือฟริเกต เย้ย ‘บิ๊กทิน’ อ่านรธน.ไม่แตก จี้ นายกฯ เคลียร์ด่วน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. แถลงเรื่องจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนที่ยังมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ไม่เป็นไปตามสัญญา โดยยืนยันรัฐบาลให้เงิน ทร.ซื้อเรือดำน้ำ ทางทร.ก็ทำหน้าที่ซื้อเรือดำน้ำ ไม่มีหน้าที่ไปบอกให้เปลี่ยนเป็นเรือประเภทอื่นว่า เป็นไปตามที่กมธ.การทหาร ทราบมาก่อนแล้ว

กมธ.เคยเชิญผู้แทนทร.กับ กระทรวงกลาโหม เข้าชี้แจงปมเปลี่ยนเรือดำน้ำ เป็นเรือฟริเกต ได้ยินมาตลอด ว่า ทร. ไม่ประสงค์เปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต แต่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ยืนยันตลอดว่า ทร.ต้องการ ซึ่งเมื่อวาน(20พ.ย.)ชัดแล้ว ทร.ไม่ต้องการ ซึ่งรมว.กลาโหม กับผบ.ทร.ต้องเคลียร์กัน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า นายสุทิน ทำการบ้านน้อยเกินไป กมธ.เคยทำหนังสือถึงนายสุทิน เนื่องจาก เป็นเรื่องสัญญาระหว่างประเทศ แต่นายสุทิน อ้างว่าไม่ใช่สัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งกมธ.การทหารยืนยันว่า มันเป็นสัญญาระหว่างประเทศตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจถูกต้อง ที่ผบ.ทร.นำเรื่องไปหารือกับอัยการสูงสุด (อสส.) คลี่คลายปัญหาให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แต่น่าผิดหวังที่นายสุทิน เคยบอกว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศ เคยให้ความเห็นไว้ว่า ในลักษณะแบบนี้ ไม่ใช่สัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งตรงนี้เป็นการอ่านรัฐธรรมนูญไม่แตก ไม่ได้เอากรณีเขาพระวิหาร และสัญญาขายข้าวจีทูจี มาเทียบเคียงเลย

ตนสนับสนุนแนวคิด ผบ.ทร.ที่รอบคอบ เรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ต้องเข้ามาเป็นตัวกลางหารือระหว่าง รมว.กลาโหม และผบ.ทร. ที่มองไม่ตรงกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน