เสรี โวย มีคนสกัด สว. ไม่ให้ลงชื่ออภิปราย ม.153 ยันไม่ได้ล้มรัฐบาล เพียงแค่เรียกเข้ามาชี้แจง มองเป็นหน้าที่ ถึงไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีมีการสกัด สว.ไม่ให้ร่วมลงชื่อยื่นเปิดอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า การจะเปิดอภิปรายได้ต้องมีสมาชิกลงชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 คือ 84 เสียง

ในช่วงเวลาดังกล่าว เราได้นำเอาญัตติให้สมาชิกไปศึกษาเพื่อให้เห็นประโยชน์ที่จะมีต่อประชาชน แต่ปรากฏว่าสมาชิกหลายคนไม่รับรองให้ หรือไม่ร่วม

“บางคนก็พูดกันตรงๆ ว่ามีคนขอกันบ้าง มีพวกกันบ้าง ซึ่งเราพยายามอธิบายว่าเป็นหน้าที่ สว. จึงยากลำบากในระดับหนึ่งว่า สว. 250 คนต้องใช้ 84 เสียง จริงๆ ถ้าไม่มีใครมาล็อบบี้ปล่อยตามธรรมชาติก็ครบไปนานแล้ว” นายเสรีกล่าว

นายเสรี กล่าวว่า สิ่งที่เราทำ ไม่ใช่การจะไปล้มรัฐบาล แต่ สว.เสนอญัตติเพื่อให้รัฐบาลมาชี้แจงหาทางออกของประเทศใน 7 ประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหาร ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่มีแนวคิดจะไม่ให้มีผู้สนับสนุนญัตติครบ ตนว่าคิดผิด หากรัฐบาลตอบได้ก็เป็นเครดิตของรัฐบาล อย่าไปปิดกั้น ควรให้สว.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้

ส่วนที่เมื่อเช้านี้ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ระบุว่าได้รับการประสานมาว่าขณะนี้ได้เสียงเกิน 90 แล้วนั้น นายเสรีกล่าวว่า ตอนนี้มีผู้แจ้งความจำนงไว้ 80 คนแล้ว ซึ่งตนมองว่าน่าจะเปิดอภิปรายได้ เราจะทำให้ได้ เพราะเป็นภาพลักษณ์ของ สว.ที่ไม่อยู่ใต้อาณัติใคร ซึ่งเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง

ในช่วงเวลาสุดท้ายที่ สว.ใกล้หมดวาระ เราตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด ถือเป็นผลงานสุดท้ายที่เราทำเพื่อประชาชน แม้เราจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ในความรับผิดชอบในอำนาจหน้าที่เป็นสิ่งที่วุฒิสภาควรจะต้องทำ

ส่วนจะทบทวนหรือไม่ที่ สว.ยกมือให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ นายเสรี กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ตอนตั้งรัฐบาลก็ตั้งไป แต่ตอนทำหน้าที่ตรวจสอบก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่ง ขณะนี้เราดูการทำงานในช่วง 4 เดือนว่าต้องมีอะไรทักท้วงหรือเสนอแนะบ้าง

ส่วนที่มีความกังวลว่าไม่ให้ สว.แตะเรื่องคนชั้น 14 นั้น นายเสรี ระบุว่า มีหลายเรื่อง กระบวนการยุติธรรมก็ส่วนหนึ่ง เรื่องเศรษฐกิจการแจกเงินดิจิทัลก็ส่วนหนึ่ง การแก้รัฐธรรมนูญก็ส่วนหนึ่ง ฉะนั้นตนมองว่าการนำมาพูดในสภาก็เป็นเรื่องที่ดีที่เป็นทางการ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ที่เราต้องทำ

เมื่อถามว่านอกจากการล็อบบี้ยังมีสาเหตุอื่นอีกหรือไม่ที่ทำให้ สว.ไม่ร่วมลงชื่อเปิดอภิปราย นายเสรี กล่าวว่า สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือ การสกัดกั้นในกระบวนการทางการเมือง ซึ่งไม่ควรทำ มีแต่ความเสียหาย ปล่อยให้แต่ละฝ่ายต่างทำหน้าที่ รัฐบาลก็บริหารประเทศไป

เมื่อถามว่ามีการไปขอเสียง สว.ในส่วนของผู้นำเหล่าทัพหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า เราต้องเข้าใจว่าเขาเป็นราชการ ไม่อยากยุ่งเรื่องการเมือง เพียงแต่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้ทำหน้าที่ เราต้องเข้าใจตรงนั้น เรารู้ผลอยู่แล้วไปขอเขาก็ไม่ลงชื่ออยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน