ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษา คุก 50 ปี บัสบาส พ่อค้าออนไลน์ชาวเชียงราย วัย 30 ปี ผิด ม.112 นับเป็นโทษสูงที่สุดใน คดีความผิด มาตรา 112

วันที่ 18 ม.ค.2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลจังหวัดเชียงราย นัดฟังคำพิพากษาของ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 คดีของ “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร วัย 30 ปี พ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย ผู้ถูกฟ้องในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์เฟซบุ๊กรวม 27 โพสต์

คดีนี้ บัสบาส ถูกจับกุมดำเนินคดี 2 ครั้ง หลังเดินทางไปนั่งอดอาหารประท้วงเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง หน้าศาลอาญาในช่วงสงกรานต์ของปี 2564 โดยมี พ.ต.ท.ปราโมทย์ บุญตันบุตร จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นผู้กล่าวหาใน 2 คดี ที่ถูกรวมการพิจารณาเข้าด้วยกัน

ในชั้นพิจารณา ศาลจังหวัดเชียงราย สั่งพิจารณาคดีนี้เป็นการลับ ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าฟังการพิจารณา และมีช่วงการพิจารณาที่ศาลใช้การสืบพยานโดยระบบการบันทึกภาพและเสียง

ต่อมาทางฝ่ายจำเลยประสบปัญหาในการขอคัดถ่ายวิดีโอดังกล่าว เนื่องจากข้อบังคับประธานศาลฎีกาไม่อนุญาตให้คู่ความทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซ้ำ แต่อนุญาตให้เพียงไปตรวจดูวิดีโอบันทึกการสืบพยานนี้ที่ศาล ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่

หลังจากสืบพยานเสร็จสิ้น วันที่ 26 ม.ค. 2566 ศาลจังหวัดเชียงรายมีคำพิพากษา โดยเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดในจำนวน 14 ข้อความ และยกฟ้องอีก 13 ข้อความ กรณีข้อความที่เกี่ยวกับอดีตกษัตริย์รัชกาลที่ 9 หรือข้อความที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ว่าโพสต์หมายถึงบุคคลใด และบางโพสต์แม้จะมีภาพรัชกาลที่ 10 แต่ศาลเห็นว่าไม่เป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาท ทำให้ไม่เข้าองค์ประกอบมาตรา 112

ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้เหลือกระทงละ 2 ปี ทั้งหมด 14 กระทง รวมโทษจำคุก 28 ปี

หลังพิพากษา ศาลชั้นต้น ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา และศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นเลย โดยอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยไม่เคยผิดสัญญาประกัน

แต่กำหนดเงื่อนไขการประกันตัว ได้แก่ ห้ามกระทำการที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ฝ่ายจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อมา โดยมีประเด็นสำคัญ 4 ประเด็น

นอกจากสองคดีนี้ บัสบาส ยังถูกฟ้องในคดีมาตรา 112 ที่ศาลจังหวัดเชียงราย ในภายหลังอีกคดีหนึ่ง จากการโพสต์อีก 2 ข้อความ โดยในคดีที่ 3 นี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเห็นว่ามีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 4 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ระหว่างรอการประกันตัวในคดีนี้

บัสบาส ถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงราย เป็นระยะเวลา 1 คืน ก่อนศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะอนุญาตให้ประกันตัว

ทั้งนี้ ในการถูกคุมขัง 1 คืน ดังกล่าว บัสบาส ยังได้ร้องเรียนว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกล่าวถ้อยคำในลักษณะข่มขู่ และกรีดเสื้อผ้าและรองเท้าของเขาก่อนนำไปทิ้งด้วย

สำหรับอัตราโทษในคำพิพากษาของบัสบาสในสองคดีแรกนั้น นับได้ว่าสูงที่สุดในคดีมาตรา 112 ที่เกิดขึ้นในยุคตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา แต่ยังต่ำกว่ากรณีของ “อัญชัญ” ซึ่งคดีเกิดขึ้นในยุค คสช. ที่ถูกศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุกรวม 87 ปี จากการเผยแพร่คลิปเสียงของ “บรรพต” ดีเจผู้จัดรายการใต้ดิน จำนวน 29 กรรม โดยเธอให้การรับสารภาพ

ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุก 29 ปี 174 เดือน (คิดเป็นราว 43 ปี 6 เดือน) มากที่สุดเท่าที่ทราบข้อมูล ซึ่งปัจจุบันเธอก็ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำ

ล่าสุด “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร ถูกกล่าวหาจากการโพสต์เฟซบุ๊ก 27 ข้อความ เดิมศาลชั้นต้นพิพากษาเห็นว่าผิดใน 14 กระทง ลงโทษจำคุก 28 ปี ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยอุทธรณ์คดี

ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่ามีความผิดเพิ่มใน 11 กระทง ลงโทษจำคุกเพิ่ม 22 ปี รวมโทษจำคุกเป็น 50 ปี

ซึ่งโทษจำคุกดังกล่าวนับว่าสูงที่สุดใน คดี ม112 เท่าที่ทราบข้อมูล สูงกว่าคดีอัญชัญก่อนหน้านี้ที่ศาลลงโทษจำคุก 43 ปี 6 เดือน

อ่านรายละเอียด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน