เศรษฐา ลั่นหนุนยกระดับมาตรฐานท่าเรือรับท่องเที่ยว-การค้าชายแดน ดีใจเป็นสองเท่าเห็นชาวระนองเข้าใจรัฐบาลทำ‘แลนด์บริดจ์’ ชาวบ้านแห่รับนำรูปทักษิณมาโชว์ บอกเศรษฐา เป็นนายกฯคนที่สองที่มา

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 22 ม.ค.2567 ที่ท่าเรือระนอง-เกาะสอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางมาติดตามประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง และพบผู้แทนชาวประมงในการแก้ไขปัญหาไอยูยู

โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม

เมื่อมาถึง มีชาวบ้านมารอต้อนรับนายกฯ พร้อมมอบดอกไม้ ดอกกุหลาบแดงและถือป้ายข้อความให้กำลังใจ เช่น ชาวปากน้ำเป็นกำลังใจให้ทุกท่านในการบริหารประเทศไทย, ชาวปากน้ำระนองยินดีต้อนรับท่านนายกฯเศรษฐา ท่านรองนายกฯอนุทิน, ขอบคุณท่านนายกฯที่ลงพื้นที่ปากน้ำบ้านเรา รักค่ะ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีประชาชนตะโกน “ขอให้เป็นนายกฯ 4 ปี” และมีประชาชนกล่าวว่าคนระนองมีแต่คนสวยๆ ด้านนายเศรษฐา ตอบกลับว่า แน่นอนอยู่แล้ว พร้อมหันไปชี้ที่นายอนุทิน ก่อนกระเซ้าว่า ท่านอนุทินยังมาเป็นเขยระนองเลย ทำให้นายอนุทินยิ้มไม่หุบ เพราะภรรยาของนายอนุทินคนปัจจุบัน เป็นคนจังหวัดระนอง

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านนำภาพถ่ายกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อครั้งลงพื้นที่ระนอง มาให้นายเศรษฐาดู พร้อมบอกว่า นายเศรษฐา เป็นนายกฯคนที่ 2 ที่ลงพื้นที่ระนอง รู้สึกดีใจ

อย่างไรก็ตาม ได้มีตัวแทนกลุ่มพีมูฟ ได้ยื่นหนังสือต่อนายกฯ ขอให้ช่วยเหลือในการแก้ปัญหาสิทธิพึงมี และสถานะบุคคลของคนไทยพลัดถิ่น และกลุ่มชาติพันธุ์ชเล กลุ่มมอแกน, มอแกลนอูรักลาโว้ย ในพื้นที่จังหวัดพังงา, ระนอง, ชุมพร, ประจวบฯ, กระบี่ และสตูล ซึ่งนายกฯ รับปากจะไปดูในเรื่องนี้

จากนั้นนายกฯ ได้รับฟังรายงานเกี่ยวกับเรื่องการค้าชายแดนในพื้นที่ จากเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร และรับฟังสถิติการเดินเข้าออกชายแดน จากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

นายเศรษฐา กล่าวกับประชาชนว่า ดีใจวันนี้ได้มาระนองครั้งแรก และวันนี้มาทั้งคณะรัฐมนตรีซาบซึ้งถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวระนอง ซาบซึ้งถึงความจริงใจที่ชาวใต้มีให้กับพวกเรา แม้เป็นจังหวัดเล็ก แต่รัฐบาลให้ความสำคัญ มีความจริงใจ ความอบอุ่นที่เราได้รับวันนี้จะประทับใจโดยไม่รู้ลืม จริงๆแล้ว ครม.กับระนองก็เป็นเครือญาติกัน เพราะรองนายกฯก็เป็นเขยที่นี่ จังหวะนี้ทำให้นายอนุทิน ได้ยกมือไหว้ชาวระนอง

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ฟังการบรรยายมีหลายมิติ รัฐบาลสนับสนุนท่าเรือตรงนี้ให้มีการยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น เพราะเราคำนึงถึงการค้าชายแดน การเดินทางระหว่างนักท่องเที่ยวที่มาจากเมียนมา และการทำงานตรงนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ

ขอเรียนว่าการที่เราจะปรับปรุงแต่ท่าเรืออย่างเดียว ไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด การที่เรามีการขนส่งสินค้าทั้งขาเข้าและขาออก เรื่องสำคัญคือผู้ประกอบการต้องการความสะดวกสบายวันสต๊อปเซอร์วิส เวลามาไม่ต้องเสียเวลาคอยหรือผ่านแต่ละโต๊ะ ตรงนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ที่จะทำให้ท่าเรือระนองแห่งนี้ทันสมัยและมีความสะดวกสบายในการใช้

ยืนยันว่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่การทำให้ท่าเรือนี้ดีขึ้นเท่านั้น แต่เรื่องประมงก็เป็นเรื่องสำคัญ การที่เราแก้ไขปัญหาไอยูยู ก็สำเร็จไปได้เปราะหนึ่งแล้ว เข้าใจว่าทำให้ปลดล็อกเรือประมงไทยให้ออกไปค้าขายได้ดีขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า ผู้แทนชาวประมงที่ท่าเรือระนอง-เกาะสอง เล่าให้ฟังถึงปัญหาในหลายมิติ รัฐบาลยินดีสนับสนุนการปรับยกระดับมาตรฐานท่าเรือตรงนี้ขึ้น พร้อมเสริมการค้าชายแดน ขั้นตอนด่านศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองให้รวดเร็ว เพื่อให้พี่น้องค้าขายได้มากขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า นี่คือหนึ่งในการพลิกฟื้นอาชีพประมงไทย เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา กฎหมายประมงไม่ตรงกับแนวทางปฏิบัติจริง ผู้ประกอบการประมงรายเล็ก กว่า 20,000 ราย ต้องเลิกกิจการไป รัฐบาลจึงได้ปรับ พ.ร.บ.ประมงเพิ่มเติมฯ เพื่อทำให้ประมงไทยกลับมามีรายได้และส่งออกได้มากขึ้น คนไทยได้ทานอาหารทะเลที่มีคุณภาพและราคาถูก อนุรักษ์ทะเลได้อย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกันก็เคารพในกติกาสากลที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ดูแลคุ้มครองแรงงานไม่ให้ผิดหลักมนุษยชน และทำให้สินค้าประมงจากไทยโปร่งใสตรวจสอบได้

จากนั้นเวลา 12.00 น. นายเศรษฐา ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน โดยนายอนุทิน เปิดร้านจ่าจ้าคอฟฟี่ ของคุณจ๋า สุภานัน นิราษิท ภรรยานายอนุทิน รับประทานอาหารกลางวัน

โดยเมนูที่เสิรฟ์ ประกอบด้วยกุ้งผัดกะปิสะตอ (กะปิระนอง) ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ไข่เจียวปู แกงจืดโหระพาหมูสับ แกงพริกปลาดุกอันดามัน น้ำพริกกุ้งสด-ผักสดพื้นเมือง หมูค้อง ทอดมันปลา ห่อหมก ส่วนเมนูของหวานคือ ลอดช่องกะทิสด (หาดส้มแป้น) และไอศกรีมกะทิโบราณ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน