พิธา รอศาลรัฐธรรมนูญวินัจฉัย เดินหน้าแก้ ม.112-ดันร่างกฎหมายนิรโทษฯ ได้หรือไม่ ยันก้าวไกล ไม่ทิ้งการช่วยเหลือนักเคลื่อนไหว
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ซึ่งล่าสุดพรรครวมไทยสร้างชาติได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุขเข้าสภาด้วย ว่า ตนยังไม่ได้อ่านร่างพ.ร.บ.ของรวมไทยสร้างชาติ
ส่วนแนวทางดำเนินนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 จะผลักดันต่อหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ในพรรคยังไม่ได้พูดคุยกัน
เมื่อถามกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่ระบุ จะไม่นิรโทษกรรมคดี ม.112 แต่จะตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายๆ ไป ซึ่งอาจขัดกับพรรคอื่นที่ไม่รวมการนิรโทษกรรมคดี ม.112 นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ได้คุยกับนายรังสิมันต์ ในส่วนของกรรมาธิการฯ เหมือนการพบกันครึ่งทาง แต่ของพรรคก้าวไกล การนิรโทษกรรม รวมมาตรา 112 ขณะนี้ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าตรงกับที่นายรังสิมันต์ต้องการทำหรือไม่
นายพิธา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเห็นว่า ช่วง 17 ปีที่ผ่านมาที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าปีนี้มีโอกาสที่เราจะเริ่มต้นใหม่ ก็ไม่อยากให้มีการสร้างกำแพงขึ้นมา เพราะจะทำให้โอกาสในการสร้างความสมานฉันท์ในชาติลดลง เมื่อมีเงื่อนไขใหม่เกิดขึ้น คิดว่าน่าจะมีวิธีบริหารจัดการความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งมาจากหลายรูปแบบได้รับการจัดการอย่างครบถ้วน
สำหรับอุปสรรคใหญ่ของการนิรโทษกรรม ซึ่งมีเงื่อนไข ม.112 พรรคก้าวไกลจะมีบทบาทช่วยเหลือผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไรนั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังติดตามสถานการณ์อยู่เรื่อยๆ อัปเดตอยู่เสมอ คิดว่าพรรคก้าวไกลคงไม่ทิ้งเรื่องนี้
ซึ่งเป็นเรื่องการแสดงออกทางการเมือง และเป็นการหาทางออกร่วมกันของประเทศชาติ ว่าการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้น ควรจะออกมาในทิศทางไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยาวชนอายุน้อยกว่า 18 ปี
