เอกนัฏ ยัน รทสช. ปลด เจ๋ง ดอกจิก พ้นคณะทำงานตั้งแต่ ธ.ค ปี 2566 แล้ว เตรียมเรียกประชุม กก.บห.พรุ่งนี้ ตั้งกก.สอบ ‘พิมณัฏฐา’ ชี้ถ้าผิดจริงขับพ้นพรรค

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กรณีถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท

นายเอกนัฏ กล่าวว่า พรรคพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนการทำงานของเจ้าพนักงาน เพื่อให้เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อดำเนินคดีนำคนทำผิดมาลงโทษ ยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ปกป้องคนกระทำความผิด ซึ่งมาตรการของพรรค ถ้าสมาชิกพรรคคนใดไปกระทำความผิด คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะตั้งคณะกรรมการเพื่อขับออก

โดยในการประชุมกรรมการบริหารพรรควันที่ 30 ม.ค.นี้ พรรคจะให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) และ สส.ทุกคนของพรรคไปตรวจสอบ เพื่อทำรายงานว่าได้ตั้งคณะที่ปรึกษาส่วนตัวเป็นใครบ้าง ถ้ามีบุคคลเหล่านี้ไปเกี่ยวข้องก็จะให้ปลดออกทั้งหมด

เมื่อถามกรณีวันเกิดเหตุ นายยศวริศ และน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส เขต 1 จ.อุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ว่าได้มาประชุมในฐานะคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ขณะที่พรรคแจ้งว่าให้นายยศวริศ พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่เดือนธ.ค.2566 แล้ว ย้อนแย้งกันหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ใช่การย้อนแย้ง หลังเกิดเหตุได้สอบถามนายพีระพันธุ์ แจ้งว่ามีการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวตั้งแต่เดือนธ.ค.2566 จริง

แต่การที่นายยศวริศไปประชุม ไม่ได้ไปในฐานะที่ถูกแต่งตั้ง ซึ่งเขตตรวจราชการพื้นที่ 11 เป็นพื้นที่ภาคอีสาน นายยศวริศ มาอาสาช่วยหาเสียงเพื่อสลายความขัดแย้ง เพราะเคยเป็นแกนนำคนเสื้อแดงมาก่อน จึงเป็นการเดินสายเพื่อสร้างความปรองดอง สลายความขัดแย้ง ไม่ได้แต่งตั้งให้ไปเพื่อมีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าว

การที่นายยศวริศไปประชุมในสถานที่ต่างๆ นั้น พรรคไม่ได้ห้าม เพราะเป็นการประชุมอย่างเปิดเผย มีการจดบันทึกการประชุมทั้งหมด คนเหล่านี้ในมุมของพรรคเป็นการช่วยหาเสียง

“แม้จะช่วยหาเสียงหรือทำงานการเมือง แต่ถ้ามีการแอบอ้างแล้วสร้างความเสียหาย มีประพฤติมิชอบ พรรคก็ต้องรีบดำเนินการจัดการ ซึ่งก็จะถือเป็นโอกาสกวาดบ้านตัวเอง” นายเอกนัฏ กล่าว








Advertisement

นายเอกนัฏ กล่าวว่า หลังจากปลดนายยศวริศ ออกจากการเป็นคณะทำงานแล้ว การที่ยังไปทำงานสถานที่ต่างๆ ถือว่าไปเป็นการส่วนตัว ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมยังมีป้ายชื่อเป็นคณะทำงานอยู่นั้น น่าจะเป็นการไปนั่งอยู่ในกลุ่มคณะทำงาน แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง ส่วนการให้พ้นจากตำแหน่งวันที่เท่าไหร่ของเดือน ธ.ค.นั้น ต้องไปถามนายพีระพันธุ์เอง

ทั้งนี้ นายยศวริศ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่น.ส.พิมณัฏฐาเป็นผู้สมัคร และเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่เดือนก.พ.2566 ดังนั้น ตามข้อบังคับ หากสมาชิกพรรคกระทำความผิดทางวินัยหรือจรรยาบรรณร้ายแรง คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติขับออกได้ ทั้งนี้ ถ้าพบว่ามีคนไปแอบอ้างสร้างความเสียหาย หรือไปตบทรัพย์ใคร สามารถแจ้งมามายังพรรคและตน ตามช่องทางต่างๆ ได้

“วันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ในการประชุมพรรค เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะขณะนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว เราจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นก่อน” เลขาธิการพรรค รทสช. กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน