สนธิญา ร้อง ประธานสภาฯ สอบปมตั้ง ธนาธร นั่งกมธ.กิจการกองทัพ เชื่อขัดจริยธรรม ถาม พิธา จะรับเงินเดือน สส. ช่วงหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ชี้ต้องสร้างบรรทัดฐาน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบการแต่งตั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้าที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
โดยนายสนธิญา กล่าวว่า นายธนาธร ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ขณะนี้ยังไม่ครบกําหนด และยังเป็นผู้ต้องหาคดีรุกป่า รวมถึงคดีมาตรา 112 โดยตนจะยื่นให้นายวันมูหะมัดนอร์พิจารณาว่า การแต่งตั้งนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือเป็นไปตามข้อบังคับว่าด้วยเรื่องจริยธรรม ปี 2563 ที่ใช้บังคับกับสส.และกมธ.หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งบุคคลภายนอกมาเป็นกมธ.ถือเป็นเรื่องปกติ นายสนธิญา กล่าวว่า คนที่จะมาเป็นกมธ.ชุดใดก็ตาม บุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2.ไม่ขัดต่อกระบวนการจริยธรรม ปี 2563 ทั้งนี้ ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรขัดคุณสมบัติดังกล่าว แต่อยากให้นายวันมูหะมัดนอร์พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายธนาธรว่าขัดหรือไม่ แต่ตนเห็นว่ามีหลายเรื่องที่ขัดต่อจริยธรรม
นอกจากนี้ ตนขอถามนายวันมูหะมัดนอร์ ผ่านไปยังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จากกรณีที่ตนมีส่วนร่วมในการกระตุ้นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องการถือหุ้นไอทีวีให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งนายพิธาและพรรคก้าวไกล ระบุว่าเสียเวลาไป 6 เดือน พร้อมถามหาความรับผิดชอบนั้น
ตนขอเรียนว่าตอนที่พรรคร่วมฝ่ายค้ายเคยยื่นให้ตีความ กรณีการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลใช้เวลาพิจารณา 1 เดือนครึ่ง ขอถามกลับว่าใครจะรับผิดชอบ
ทั้งนี้ กรณีของพล.อ.ประยุทธ์ ท่านมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบที่กว้างไกล และการตีความเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าครบหรือไม่ ดังนั้นจึงแตกต่างจากกรณีของนายพิธา ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุว่า ที่ล่าช้าเพราะนายพิธาขอผัดไป 2 เดือน
นอกจากนี้ ตนขอถามนายพิธาว่า เงินเดือน สส.ของนายพิธา รวมถึงเงินสำหรับผู้ช่วย ผู้ชำนาญการ และผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ทั้งหมด 6 เดือน เป็นจำนวนเงิน 1.4 ล้านบาท นายพิธาจะรับหรือไม่ เพราะไม่ทราบว่าตลอดเวลา 6 เดือน ได้ทํางานหรือไม่ และควรสร้างบรรทัดฐานใหม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน
และขอถามอีกว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปพรรคฝ่ายค้านจะไม่ทำให้สภาล่มอีกใช่หรือไม่ รวมถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่สภา มีการนำเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่มีคดีมาตรา 112 และหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ มารวมในกฎหมายด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติอย่างไร ตนก็พร้อมจะเดินหน้าตรวจสอบในอีกหลายประเด็น