‘พริษฐ์’ มั่นใจ “ก้าวไกล” ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ชี้ หากคำวินิจฉัยออกมา มีแผนรองรับไว้แล้ว เผย รอฟังคำวินิจฉัยที่ สภาฯ หากมีความเห็นอะไรจะแถลง

วันที่ 30 ม.ค.2567 ที่พรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) กรณีการหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล พยายามเต็มที่ในการชี้แจงต่อข้อสงสัย และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเราผ่านกระบวนการยุติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการกระทำของพรรคและ ส.ส. ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่มีการกระทำใดที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามข้อกล่าวหา

“หากจะพูดเจาะจงเกี่ยวกับกรณี ที่มี ส.ส.พรรคก้าวไกลในสภาชุดที่แล้ว ยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เราต้องยืนยันว่าการกระทำของ ส.ส. คนดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ทั้งในเชิงของกระบวนการ และเนื้อหาสาระ เพราะท้ายสุดยื่นเข้าไปแล้วก็ต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน” นายพริษฐ์กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส.ส.ของพรรคทุกคน รวมถึง นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก็จะอยู่ที่สภา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส.

เพราะน่าจะมีหลายวาระสำคัญที่เข้าสู่ที่ประชุม ส.ส. ทุกคนจึงอยากมีสมาธิเต็มที่ในการประชุมสภาฯ โดยเมื่อคำวินิจฉัยออกมาแล้ว คงมีการฟังคำวินิจฉัยที่สภา และหากมีความเห็นอะไรต่อจากนั้นก็จะมีการแถลงต่อสื่อมวลชน








Advertisement

ทั้งนี้ หากศาลมีคำวินิจฉัยว่าให้ยุติการหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องรอดูคำวินิจฉัยของศาลก่อน คงต้องรออีก 1 วัน แต่ในวันนี้ก็ต้องยืนยันว่าสิ่งที่พรรคหรือ ส.ส. ได้ทำลงไป ไม่มีการกระทำใดที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

สำหรับแผนรองรับหลังจากนี้กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่เป็นลบ นายพริษฐ์ ระบุว่า พรรคก้าวไกลได้มีการวางแผนสำหรับทุกสถานการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่ในเวลานี้ต้องยืนยันว่า ทุกการกระทำของพรรคและ ส.ส. ยังไม่มีอะไรเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และหากศาลมีคำวินิจฉัยเป็นอื่นใด ก็ต้องรอฟังความเห็นและเหตุผล

ส่วนกรณีพรรคร่วมรัฐบาลเสนอเลื่อนญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมา นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องรอดูก่อนว่าจะมีการเลื่อนญัตติขึ้นมาจริงหรือไม่ ซึ่งกำลังหารือร่วมกันระหว่างวิปทั้งสองฝ่าย

“แต่หากถอยสักก้าว แล้วพูดถึงภาพใหญ่ในเรื่องนิรโทษกรรม พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดว่าการนิรโทษกรรมคดีการเมืองจะเป็นกุญแจเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง และพยายามฟื้นฟูระบบประชาธิปไตยที่ปกติ วิธีการอาจจะแตกต่างกันไป ซึ่งพรรคก้าวไกลจะใช้วิธีการยื่นร่างกฎหมาย ส่วนพรรคเพื่อไทยเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ก็เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย”นายพริษฐ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากร่างกฎหมายของเราได้เข้าพิจารณาก่อน ก็จะใช้เวทีดังกล่าวในการอภิปราย ซึ่งจะสำเร็จได้คือต้องโน้มน้าว ส.ส. จากพรรคการเมืองอื่นๆ ให้มาเห็นชอบกับร่างกฎหมายในฉบับของพรรคก้าวไกล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน